ปวดท้องหน่วง ๆ ก่อนเป็นประจําเดือน
.
.
ปวดท้องก่อนมีประจำเดือน เป็นอีกหนึ่งปัญหากวนใจที่ผู้หญิงแทบจะทุกคนต้องเจอ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หากมีอาการปวดท้องหน่วงๆ ก่อนที่จะมีประจำเดือน อาการแบบนี้อาจจะเป็นอาการที่ไม่ปกติ และอาจจะเป็นสัญญาณเตือนโรคอื่นก็เป็นได้ มาเช็คกันว่าอาการ ปวดท้องหน่วงๆ ก่อนมีประจำเดือน เกิดจากอะไร อันตรายมากน้อยแค่ไหน และเราจะสามารถบรรเทาอาการนี้ได้อย่างไร เรามาหาคำตอบไปด้วยกันในบทความนี้
ปวดท้องหน่วง ๆ ก่อนเป็นประจําเดือน อันตรายหรือไม่
ผู้หญิงเราทุกคนน่าจะเคยมีอาการปวดท้องก่อนมีประจำเดือนมากันแทบจะทุกคน บางคนมีอาการปวดมาก บางคนมีอาการปวดน้อยที่แตกต่างกัน ปวดท้องก่อนมีประจำเดือนเป็นอาการที่ ปวดเกร็งท้องน้อย เกิดขึ้นได้ก่อนที่จะมีประจำเดือน 1 – 2 วัน หรือบางคนก็จะปวดในวันที่มีรอบเดือนแรกๆ เลย สาเหตุเกิดจากการบีบและหดตัวของมดลูกเพราะในช่วงที่มีประจำเดือนเยื่อบุมดลูกจะผลิตสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ซึ่งจะเข้าไปกระตุ้นให้มดลูกมีการบีบตัวมากขึ้น ปวดท้องหน่วงๆ ก่อนมีประจำเดือน ถือเป็นอาการปกติไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด แต่หากปวดเล็กน้อยไปจนถึงปวดรุนแรง และมีอาการอื่นร่วมด้วยอย่างเช่น ปวดหลัง ปวดแขน ปวดขา และท้องผูก ท้องเสีย อาการปวดแบบนี้อาจจะมีความผิดปกติ ควรไปพบแพทย์เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนโรคอื่นเช่น เนื้องอกในมดลูก หรือ เยื่อโพรงมดลูกเจริญผิดที่ก็เป็นได้
วิธีบรรเทาอาการปวดประจำเดือน
อาการ ปวดท้องหน่วงๆ ก่อนมีประจำเดือน เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคุณผู้หญิงทุกคน ถึงแม้จะไม่เป็นอันตรายจนถึงชีวิต แต่ก็ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ สำหรับคุณผู้หญิงที่มีอาการ ปวดท้องน้อยก่อนมีประจำเดือน วันนี้เรามีวิธีบรรเทาอาการปวดมาแนะนำ หากมีอาการปวดสามารถบรรเทาด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1. ประคบด้วยกระเป๋าน้ำร้อน
หากมีอาการ ปวดท้องหน่วงๆ ก่อนมีประจำเดือน สามารถบรรเทาอาการปวดได้ด้วยกระเป๋าน้ำร้อน เนื่องจากว่าความร้อนจะช่วยกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว รวมถึงลดอาการบิดเกร็งของกล้ามเนื้อมดลูก อาการปวดท้องก็จะค่อยๆ ทุเลาลง และหายไปในที่สุด
2. ทานยาแก้ปวด
ทานยาแก้ปวดเป็นอีกหนึ่งวิธีบรรเทาอาการ ปวดเกร็งท้องน้อย ที่นิยมมากเพราะเห็นผลได้เร็ว และยาที่นิยมใช้ก็คือยาพารา ยาพอนสแตน (Ponstan) แต่สิ่งที่ควรระวังก็คือไม่ควรทานยาขณะที่ท้องว่างเพราะยาเหล่านี้มีกรดรุนแรงอาจจะทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารได้
3. ดื่มน้ำขิง
น้ำขิงมีคุณสมบัติในการช่วยลดการบีบเกร็งของกล้ามเนื้อผนังมดลูก หากมีอาการ ปวดท้องหน่วงๆ ก่อนมีประจำเดือน ไม่ต้องนั่งทนทรมานเพราะน้ำขิงสามารถช่วยได้ เพียงแค่ชงน้ำขิงกับน้ำร้อนมานั่งจิบ ก็จะช่วยลดอาการปวดท้องก่อนมีประจำเดือนได้ แต่หากไม่มีน้ำขิงสามารถใช้ชาคาโมมายล์ หรือชาตะไคร้ชงดื่มแทนก็ได้ จะสามารถบรรเทาอาการปวดได้ไม่แพ้กัน
4. ใส่เสื้อผ้าโปร่งสบาย
ในช่วงที่มีอาการปวดท้องก่อนมีประจำเดือน ควรงดใส่เสื้อผ้าที่รัดๆ อย่างเด็ดขาด เพราะจะยิ่งทำให้รู้สึกอึดอัดและไม่สบายเนื้อสบายตัวมากยิ่งขึ้น ควรหาเสื้อผ้าโปร่งๆ สบายๆ ใส่แทน จะช่วยผ่อนคลายอาการปวดได้
5. ออกกำลังกายบ้าง
สำหรับคุณผู้หญิงที่มักจะมีอาการ ปวดท้องหน่วงๆ ก่อนมีประจำเดือน เป็นประจำควรหันมาออกกำลังกายบ้าง เพราะการออกกำลังกายเป็นเหมือนยาวิเศษที่ช่วยรักษาได้สารพัดโรค ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันร่างกายมากขึ้น การออกกำลังกายยังช่วยให้อาการปวดท้องก่อนมีประจำเดือนหายไปได้อีกด้วย และหากวันไหนที่มีประจำเดือนอยู่ก็สามารถออกกำลังกายได้เบาๆ อย่างเช่นการเดิน หรือบริหารยืดเส้นยืดสายเบาๆ ก็ได้
6. ทานอาหารที่มีประโยชน์
ในช่วงที่มีประจำเดือนจะทำให้รู้สึกหิวมากกว่าปกติ เห็นอะไรก็น่าทานไปหมด แต่หากไม่อยากปวดท้องประจำเดือนก็ต้องรู้จักเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารจำพวก แคลเซียม โพแทสเซียม รวมถึงอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงๆ ซึ่งจะมีมากในจำพวกกล้วย เครื่องในสัตว์ และเนื้อสัตว์ เพื่อทดแทนสิ่งที่เสียไป และควรงดอาหารจำพวกคาเฟอีนอย่างเช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม และช็อกโกแลตเป็นต้น เพราะอาหารเหล่านี้จะยิ่งเข้าไปกระตุ้นอาการ ปวดเกร็งท้องน้อย มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
7. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การที่ร่างกายได้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้ เพราะการพักผ่อนเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้ร่างกายสดชื่น และการนอนพักผ่อนให้มากๆ ในช่วงที่มีอาการปวดท้องควบคู่กับการประคบกระเป๋าน้ำร้อนจะช่วยให้อาการปวดท้องหายไปได้เร็วขึ้น
8.ไปพบแพทย์
หากมีอาการ ปวดท้องหน่วงๆ ก่อนมีประจำเดือน อย่างรุนแรง ไม่ว่าจะบรรเทาด้วยวิธีไหนก็ไม่หาย อย่านิ่งนอนใจควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง และรักษาให้ถูกตามอาการจะดีกว่า เผื่อเป็นสัญญาณเตือนโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่การปวดท้องประจำเดือนธรรมดา และจะได้รักษาได้ทันท่วงที
อาการ ปวดท้องหน่วงๆ ก่อนมีประจำเดือน เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน หากมีอาการไม่รุนแรงมากก็สามารถบรรเทาอาการด้วยวิธีข้างต้นที่เราได้นำมาฝากในวันนี้ แต่หากมีอาการปวดอย่างรุนแรงจนไม่สามารถทนได้ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและทำการรักษาอย่างถูกวิธีจะดีกว่า
บทความแนะนำเพิ่มเติมสำหรับคุณแม่
1. 5 วิธีบรรเทาอาการปวดประจำเดือน โดยไม่ต้องพึ่งยา
2. กินยาเลื่อนประจำเดือน...เลื่อนอย่างไรให้ปลอดภัย !!!!
3. ดื่มน้ำมะพร้าวขณะมีประจำเดือน ได้หรือไม่ อันตรายหรือเปล่า???
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team