ยาลดไข้ที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก
เมื่อลูกน้อยมีไข้ คุณแม่ควรดูแลให้ไข้ลดลงเร็วที่สุดเพื่อป้องกันการชัก หากลูกมีไข้ต่ำๆคุณแม่ควรเช็ดตัวลดไข้และวัดไข้ซ้ำเป็นระยะ แต่ถ้าไข้ไม่ลดลงลูกควรได้รับยาลดไข้ควบคู่ไปด้วย ยาลดไข้สำหรับเด็กในปัจจุบันมีดังนี้
1. ยาลดไข้กลุ่มพาราเซตามอล หรือ อะเซตามีโนเฟน (Paracetamol หรือ Acetaminophen)
พาราเซตามอล มีฤทธิ์แก้ปวดและลดไข้ บรรเทาอาการปวดศีรษะ และอาการปวดเมื่อย พาราเซตามอลเป็นยาลดไข้ที่นิยมใช้ในเด็กทุกช่วงวัย จะให้เมื่อมีอาการทุก 4 – 6 ชั่วโมง หากไม่มีอาการไม่จำเป็นต้องรับประทานต่อเนื่อง พาราเซตามอลมีทั้งรูปแบบยาเม็ดและยาน้ำ ขนาดรับประทานจะต่างกันไปขึ้นอยู่กับอายุและน้ำหนักตัวของเด็กด้วย พาราเซตามอลมีความปลอดภัยสูงหากใช้ตามคำแนะนำ การกินยาเกินขนาดหรือกินติดต่อกันนานเกินไปนั้นส่งผลต่อตับได้ คุณแม่ต้องระวังเพราะกระบวนการทำงานของตับในเด็กเล็กยังไม่สมบูรณ์
2. ยาลดไข้กลุ่ม ไอบิวโพรเฟน (Ibuprofen)
ไอบิวโพรเฟน หรือ ไอบูโปรเฟน เป็นยาแก้ปวดระดับน้อยถึงปานกลาง สามารถใช้บรรเทาอาการปวดจากข้ออักเสบ ปวดประจำเดือน บรรเทาปวดไมเกรน และใช้เป็นยาลดไข้ได้ด้วย บางครั้งจึงเรียกว่ายาลดไข้สูง ไอบิวโพรเฟน มีทั้งชนิดเม็ดและชนิดน้ำช่วยให้ลดไข้ได้ดีกว่ายาพาราเซตามอล แต่มีผลข้างเคียงค่อนข้างอันตราย เช่น ทำให้ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ มีผลต่อระบบการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติได้
การเลือกใช้ยาลดไข้ที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก
ยาลดไข้ที่ปลอดภัย เป็นยากลุ่มแรกที่แพทย์และเภสัชมักเลือกใช้สำหรับลดไข้เด็กทุกช่วงวัย คือ ยาพาราเซตามอล ซึ่งยาพาราเซตามอลมีหลายชนิด สำหรับเด็กเล็กแนะนำให้เลือกใช้ชนิดหยด ส่วนเด็กโตแนะนำให้เลือกใช้แบบชนิดน้ำเชื่อม และสำหรับเด็กโตที่อายุมากกว่า 4 ปี สามารถเลือกรับประทานชนิดเม็ดได้ ในคุณแม่ที่ไม่ได้พาลูกไปพบแพทย์ ควรซื้อยากับเภสัชกรเท่านั้น เพราะขนาดรับประทานต้องพิจารณาจากอายุและน้ำหนักร่วมด้วย พาราเซตามอลเป็นยาที่ออกฤทธิ์ได้ค่อนข้างช้า อาการไข้จะลดลงภายหลังรับประทานยาประมาณครึ่งชั่วโมง คุณแม่ต้องระวังไข้ขึ้นสูงเพราะอาจเกิดอาการชักได้ ในระหว่างที่ลูกมีไข้ควรได้กินยาควบคู่ไปกับการเช็ดตัวลดไข้อย่างถูกวิธีด้วย หากให้ยาและเช็ดตัวแล้วไข้ยังไม่ลดลงควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคอย่างละเอียด