พัฒนาปัญญา 8 ด้าน ของลูกวัยอนุบาล
ศาสตราจารย์โฮวาร์ด การ์ดเนอร์ (Howard Gardner) นักจิตวิทยา มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด เป็นผู้หนึ่งที่พยายามอธิบายให้เห็นถึงความสามารถที่หลากหลาย โดยคิดเป็น “ ทฤษฎีพหุปัญญา ” (Theory of Multiple Intelligences) ด้วยแนวคิดที่ว่าสติปัญญาของมนุษย์มีหลายด้านที่มีความสำคัญเท่าเทียมกัน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะโดดเด่นในด้านไหนบ้าง แล้วแต่ละด้านผสมผสานกัน แสดงออกมาเป็นความสามารถในเรื่องใด เป็นลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละคนไปเริ่มต้นตั้งแต่วัยแรกคลอดและสำคัญมากในวัยก่อนเข้าโรงเรียน เด็ก วัยอนุบาล หรือช่วงอายุ 3 – 5 ปี คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นเสริมสร้างทักษะรอบด้าน เพื่อเพิ่มความฉลาดในการเรียนรู้ให้กับลูกน้อย ความฉลาดรอบด้านจะมีมากขึ้น ด้วยการใช้หลักความฉลาด 8 ด้าน ตามทฤษฎีพหุปัญญา หรือ 8 Multiple Intelligences การเลือกโรงเรียนของลูกน้อยก็เช่นกันค่ะ โรงเรียนอนุบาลที่ดี คุณครูต้องมีการเสริมสร้างและพัฒนาปัญญาของเด็กๆด้วยทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อความฉลาดรอบด้าน
ปัญญาที่1ความฉลาดด้านภาษา (Linguistic)
เด็กๆควรได้รับการกระตุ้นพัฒนาการด้านภาษา เด็กที่มีความถนัดด้านภาษาจะสามารถเรียนรู้คำศัพท์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว การเล่นเกม ต่อคำศัพย์ ทำให้เด็กมีความสุขและคิดค้นหาศัพท์ใหม่ๆอยู่ตลอดเวลาเพื่อเอาไว้เล่นกับเพื่อนๆในครั้งต่อไป กิจกรรมที่ช่วยเพิ่มความฉลาดทางภาษาได้แก่ การอ่านคำกลอน การเล่านิทาน เด็กที่มีความฉลาดทางภาษาจะมีจุดเด่นเฉพาะตัวคือ จดจำคำศัพท์และ อธิบายเรื่องที่เกี่ยวกับตนเองได้เป้นอย่างดี
ปัญญาที่2. ความฉลาดด้านคณิตศาสตร์และตรรกะ ( Logical-Mathematical)
เป็นความฉลาดเชิงวิเคราห์ะและแก้ไขปัญหา ด้วยการนำตรรกะมาคิดแก้ไขปัญหา ได้อย่างเป็นลำดับดับขั้นตอนและมีแบบแผน กิจกรรมที่เพิ่มพูนปัญทาด้านนี้ได้แก่ การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ การทดลองทางวิทศาสตร์ การฝึกและกระตุ้นปัญญาด้านนี้บ่อยๆจะช่วยให้เด็กมีความคิดเชื่อมโยง เหตุและผลของสิ่งต่างๆ และเหตการณ์ที่เกิดขึ้นในชิวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี เด็กที่มีความฉลาดทางคณิตศาสตร์และตรรกะ จะมีจุดเด่นเฉพาะตัวคือเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผลได้ดี เมื่อเผชิญสถานการณ์ที่ซับซ้อน เด็กสามารถแยกแยะ จัดลำดับและเข้าใจรูปแบบของสิ่งที่เกิดขึ้น
ปัญญาที่3. ความฉลาดด้านดนตรี (Musical)
เด็กๆที่มีความสนใจทางด้านดนตรีเขาจะมีความว่องไวต่อเสียง ถึงแม้จะเป็นเด็กแต่เขาสามารถเชื่อมโยงระหว่างเพลงและเครื่องดนตรีได้ การกระตุ้นปัญญาด้านดนตรีให้กับเด็กเป็นการเพิ่มพูนสมองส่วนความจำได้เป็นอย่างดี เพราะเด็กที่หลงไหลในดนตรี จะสามารถจดจำสัมผัสเนื้อร้องและทำนองเป็นช่วงยาวๆได้ เพราะฉะนั้นเป็นนทักษะการฝึกสมองเรื่องความจำได้ดีอย่างคาดไม่ถึง กิจกรรม คือ การเล่นตนตรีที่เขาสนใจ ร้องเพลง ฟังเพลง พวกเขามักจะชอบร้องเพลงและใช้เทคนิคในการเรียนรู้ผ่านบทเพลงและจังหวะต่างๆ ได้ เด็กที่มีความฉลาดด้านดนตรีจะมีจุดเด่นเฉพาะตัวคือ มีความจำที่ดี สามารถจดจำเรื่องราว หรือบทท่องจำที่ยาวๆได้อย่างดีเยี่ยม
ปัญญาที่4. ความฉลาดด้านร่างกาย (Bodily-Kinesthetic)
การพัฒนาปัญญาความฉลาดทางด้านร่างกายนี้ได้รวมถึงจิตใจด้วย การพัฒนาปัญญาด้านร่างกายและจิตใจไปพร้อมๆกันจะช่วยให้เด็กมีร่างกายที่แข็งแรงสุขภาจิตดี เป็นพื้นฐานในการพัฒนาปัญญาด้านอื่นๆอีกด้วย กิจกรรมกระตุ้นปัญญาความฉลาดทางร่างกายได้แก่ การออกกำลังกาย การเคลื่อนไหว การเต้นรำ เด็กที่มีความฉลาดด้านร่างกายจะมีจุดเด่นเฉพาะตัวคืออยู่ไม่สุข อยู่ไม่นิ่ง สามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าทางกายภาพได้เป็นอย่างดี หยิบจับสิ่งของได้อย่างรวดเร็ว มีการทรงตัวที่ดี
ปัญญาที่5. ความฉลาดด้านมิติสัมพันธ์ (Spatial)
ปัญญาด้านการคิดใคร่ครวญและเคราะห์ตนเอง จะช่วยให้เด็กมีสมาธิสามารถจดจำทิศทางได้ กิจกรรมกระตุ้นปัญญาด้านนี้ได้แก่ การต่อจิ๊กซอว์ การสื่อสารด้วยภาพ เด็กที่มีความฉลาดด้านปฏิสัมพันธ์ต่อตนเองจะมีจุดเด่นเฉพาะตัวคือเด็กจะสามารถจัดการสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นได้ จากการวางแผนในหัวก่อนการลงมือปฎิบัติ มีทักษะในการใช้มือที่ดี
ปัญญาที่6. ความฉลาดด้านมนุษยสัมพันธ์ (Interpersonal)
เป็นการเรียนรู้ปฏิสัมพันธ์ และการเอาใจใส่ต่อผู้อื่น เด็กที่ฉลาดด้านนี้จะมีมนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยม กิจกรรมพัฒนาปัญญาข้อนี้ได้แก่การเล่นเป็นกลุ่ม การทำงานกลุ่ม เด็กที่มีความฉลาดด้านมนุษยสัมพันธ์จะมีจุดเด่นเฉพาะตัวคือ มีความเป็นผู้นำที่ดี เห็นอก เห็นใจ ผู้อื่น เข้าใจความแตกต่างของบุคคล
ปัญญาที่7. ความฉลาดด้านเข้าใจตนเอง (Intrapersonal)
เป็นความสามารถของบุคคลในการเข้าใจตนเอง มีความมั่นใจในตนเอง เข้าใจถึงศักยภาพของตนเอง สามารถตั้งเป้าหมายในชีวิตได้อย่างเหมาะสมกิจกรรมพัฒนาปัญญาด้านนี้คือให้เด็กเขียนเรียงความ การทำโครงงานสิ่งประดิษฐ์ที่เขาสนใจเป็นพิเศษ เด็กที่มีความฉลาดด้านเข้าใจตนเองจะมีจุดเด่นเฉพาะตัวคือ การทำงานให้ไปถึงเป้าหมายชัดเจนว่าตนเองชอบหรือไม่ชอบอะไร และรักความยุติธรรม
ปัญญาที่8. ความฉลาดด้านรู้จักธรรมชาติ (Naturalistic)
เป็นปัญญาที่เด็กๆจะสังเกตเห็นรูปแบบและคุณลักษณะเฉพาะของสิ่งมีชีวิตต่างๆชอบจัดระบบสิ่งของที่สะสมไว้ มีความสามารถในการแยกแยะระหว่างสิ่งของในหมวดเดียวกัน และสังเกตเห็นความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ กิจกรรมพัฒนาปัญญาด้านนี้ คือ การพาเด็กเรียนรู้สิ่งแวดล้อมรอบโรงเรียน การทัศนะศึกษานอกสถานที่ เด็กที่มีความฉลาดด้านรู้จักธรรมชาติ จะมีจุดเด่นเฉพาะตัวคือ เด็กกลุ่มนี้เป็นเด็กที่ชอบผจญภัยในโลกกว้าง
วัยอนุบาล หากมีการเสริมสร้างปัญญาของลูกอย่างมีแบบแผน ช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณที่ดีเลิศ โรงเรียนอนุบาลนับเป็นส่วนหนึ่งของพ่อแม่ ที่จะช่วยเสริมสร้างปัญญาทั้ง 8 ที่ว่านี้ เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินจส่งลูกไปโรงเรียน ต้องดูโครงสร้างของหลักสูตรดวยนะคะว่า มีกิจกรรมพัฒนาปัญญา 8 ด้าน นี้หรือไม่
บทความแนะนำเพิ่มเติม
1. เลือกโรงเรียนอนุบาลให้กับลูก ยังไงดีที่สุด!
2. ทำยังไง ลูกไม่ยอมไปโรงเรียน
3. ลูกขี้อายเกินไป เสี่ยงเป็นโรคกังวลต่อการเข้าสังคม และมีปัญหาเมื่อเติบโต
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team