น้องไอนส์ เสียชีวิตด้วยมะเร็งด้วยวัยเพียง 2 ขวบ พ่อแม่พึ่งเทคโนโลยีหวัง “แช่แข็งศพ” ช่วยชุบชีวิตได้ในอนาคต

19 April 2015
1284 view

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. เว็บไซต์เมโทรของอังกฤษเผยแพร่เรื่องราวของ ด.ญ.เมทรินทร์ เนาวรัตน์พงษ์ หรือน้องไอนส์ เด็กหญิงชาวไทยวัย 2 ขวบที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในสมอง จากนั้นพ่อแม่ซึ่งเป็นหมอทั้งคู่ ก็นำร่างลูกสาวตนไปแช่แข็งที่ห้องเย็นของมูลนิธิเพื่อชีวิต อัลคอร์ ไลฟ์ เอ็กซ์เทนชั่น ในรัฐแอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อที่จะได้ศึกษาร่างกายลูกต่อไปได้ในอนาคต และหวังว่าเมื่อเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์และการแพทย์เจริญก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาจะสามารถชุบชีวิตแก้วตาดวงใจคนนี้คืนขึ้นมาได้

เมทรินทร์ นับว่าเป็นบุคคลแรกที่อายุน้อยที่สุดที่ถูกนำมาแช่แข็งด้วยกระบวนการที่เรียกว่า “ไครออนิกส์” หรือกระบวนการศึกษาความเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลง และพฤติกรรมของวัตถุต่างๆ ภายใต้อุณหภูมิที่ต่ำมาก ประมาณใต้ -150 เซลเซียส หรือ -238 องศาฟาเรนไฮต์ โดยจะนิยมใช้ก๊าซเหลวอย่างเช่น ไนโตรเจนเหลว หรือฮีเลียมเหลว แต่ที่ใช้กันมากที่สุดจะเป็นไนโตรเจนเหลว เพราะกฎหมายทั่วโลกอนุมัติให้ซื้อมาครอบครองได้ และแช่วัตถุนั้นๆไว้ในแคปซูล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมทรินทร์อายุเพียง 2 ขวบกับอีก 2 เดือน เมื่อแพทย์ตรวจพบก้อนเนื้องอกขนาด 4 นิ้วครึ่งอยู่ในสมองซีกซ้าย ทำให้วินิจฉัยได้แน่ชัดว่าเมทรินทร์ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ซึ่งแม้จะเป็นโรคที่มีพัฒนาการช้ามาก แต่ตามสถิติแล้ว ใน 5 ปีจะมีผู้รอดชีวิตเพียงร้อยละ 30 เท่านั้น เมทรินทร์เข้ารับการผ่าตัดครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2557 ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งทีมศัลยแพทย์ได้เจาะเข้าไปในกะโหลกศีรษะเพื่อลดแรงดันในสมอง ก่อนจะนำก้อนเนื้องอกออกไปครึ่งหนึ่ง

เมทรินทร์ฟื้นตัวหลังจากผ่าตัดได้ 1 สัปดาห์ แต่เชื้อมะเร็งก็แพร่กระจายไปทั่วแล้ว ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เมทรินทร์ต้องเข้าผ่าตัดสมองถึง 12 ครั้ง ทำครีโม 20 ครั้ง และฉายรังสีอีก 20 ครั้ง จนกระทั่งเสียสมองซีกซ้ายไปร้อยละ 80 และจบชีวิตลงเมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา

“เรารู้ดีว่ามันจบแล้ว เราต้องเตรียมบอกลาลูก” ดร.สหธรณ์ เนาวรัตน์พงษ์ พ่อของเมทรินทร์กล่าว และว่า “ตอนนี้ร่างของเธอถูกแช่แข็งอยู่ที่มูลนิธิอัลคอร์ในรัฐแอริโซน่าของสหรัฐ”

พ่อแม่ของเมทรินทร์เรียนรู้ข้อมูลของมูลนิธิดังกล่าวมาจากอินเตอร์เน็ต ฉะนั้น หลังจากที่ลูกสาวเสียชีวิตลง จึงได้ร่วมมือกับทีมแพทย์ผู้รักษา ในการจ้างมูลนิธิด้วยเงิน 220,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7 ล้านบาท) ให้แช่แข็งลูกด้วยกระบวนการไครออนิกส์

“พ่อแม่ของเด็กเป็นหมอทั้งคู่ พวกเขาทำการผ่าตัดมา 11 ครั้งแล้วจนกระทั่งถึงจุดที่ไม่สามารถจะยื้อไหวได้อีก เขาก็เลยติดต่อทางเรามา” มาร์จิ คิลมา โฆษกประจำมูลนิธิ กล่าว

ที่ทำการมูลนิธิอัลคอร์ตั้งอยู่ในเมืองสก็อตเดลล์ รัฐแอริโซน่า ซึ่งปัจจุบันมีร่างคนไข้ 134 คนถูกแช่แข็งด้วยไนโตรเจนเหลวภายใต้อุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส โดยในจำนวนนั้นมีนักเบสบอลดางรุ่งอย่างเท็ด วิลเลียมส์ และจอห์น เฮนรี วิลเลียมส์ ลูกชายรวมอยู่ด้วย

1429356525_Dewars

“หลังจากที่สถานทูตสหรัฐในไทยอนุมัติการขนส่งเรียบร้อยแล้ว ตู้คอนเทนเตอร์ที่บรรจุร่างของเมทรินทร์ก็พร้อม น้ำแข็งแห้งพร้อม ส่งขึ้นเครื่องบินต่อไปที่สนามบินในนครลอสแองเจลิสในรัฐแคลิฟอร์เนีย” อารอน เดรค ผู้อำนวยการด้านการตอบรับทางการแพทย์ประจำมูลนิธิกล่าว

ส่วนพ่อแม่ของเมทรินทร์ได้สมัครเป็นสมาชิกของมูลนิธิอัลคอร์แล้ว ด้วยความหวังว่า กระบวนการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่าไครออนิกส์นี้จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อการแพทย์มีความก้าวหน้าถึงขีดสุด จะสามารถชุบชีวิตลูกสาวให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้

สำหรับเทคโนโลยี ไครออนิกส์ คือกระบวนการเก็บศพไว้ในความเย็นเพื่อปลุกให้ตื่นในอนาคต มีบริษัทรับแช่ศพแบบนี้ในอเมริกาและยุโรป ศพที่แช่ไว้ตายด้วยโรคที่ปัจจุบันรักษาไม่ได้ เชื่อกันว่าในอนาคตโรคเหล่านี้อาจรักษาได้ ตอนนั้นก็ปลุกศพเหล่านี้ขึ้นมารักษา มีการทดลองแช่แข็งหนู ปรากฏว่าปลุกได้

โดยทั้งนี้ ชีวิตของไอนส์ทั้งหมดได้อุทิศให้กับความรักสุดหัวใจและวิทยาศาสตร์เพื่อผลักดันคุณภาพชีวิตของมนุษย์ และจะอยู่คู่มนุษย์ตลอดไป

ที่มา: เว็บไซต์เมโทรของอังกฤษ
ขอบคุณ: ข่าวสด