แม่ตั้งครรภ์รับประทานน้ำมันปลา
แม่ตั้งครรภ์รับประทานน้ำมันปลา Fish oil หรือ น้ำมันปลา ได้มาจากไขมันของปลา อุดมไปด้วยกรดไขมันอิ่มตัว กลุ่มโอเมก้า 3 ( Omega-3 ) และไขมันประเภทคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ในปริมาณที่ต่ำ ไขมันดังกล่าวมีความจำเป็นต่อร่างกาย คุณแม่ตั้งครรภ์หลายๆคนนิยมบริโภคน้ำมันปลาเพื่อบำรุงครรภ์ ด้วยเหตุที่ว่ามีโอเมก้าสูง จะดีจริงหรือเปล่า ควรรับประทานอย่างไร มีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน Mama Expert มีคำตอบให้ดังนี้ค่ะ
แม่ตั้งครรภ์รับประทานน้ำมันปลา ดีจริงหรือ
แม่ท้องสามารถทานน้ำมันปลา(ที่มีองค์ประกอบเป็น Omega 3) ได้ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ เพื่อช่วยลดอาการอักเสบของข้อกระดูกของแม่ท้องได้ และเนื่องจากในน้ำมันปลามี DHA เป็นส่วนประกอบ ซึ่งจะมีความสำคัญต่อกระบวนการสร้างองค์ประกอบที่สําคัญของเซลล์หรือเนื้อเยื่อของร่างกาย รวมทั้งเนื้อเยื่อสมอง เม็ดเลือดชนิดต่าง ๆ ควบคุมการเกิดลิ่มเลือด การมองเห็นที่เป็นปกติ และสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย โดยเฉพาะโอเมก้า 3 จะช่วยลดการเกิดลิ่มเลือดที่จะไปอุดเส้นเลือดฝอยของหัวใจ และทําให้ไตรกลีเซอร์ไรด์(Triglyceride) ซึ่งเป็นไขมันอันตรายลดต่ำลง ซึ่งแม่ตั้งครรภ์ที่รับประทานน้ำมันปลาจะช่วยบำรุงครรภ์ ดังนี้
- ช่วยเสริมสร้างองค์ประกอบของเนื้อเยื่อสมอง เม็ดเลือดชนิดต่างๆ
- ควบคุมการเกิดลิ่มเลือด แลัช่วยลดการเกิดลิ่มเลือดที่จะไปอุดกั้นเส้นเลือดฝอยของหัวใจ
- สร้างภูมิต้านทานร่างกาย
- ช่วยลดปริมาณไตรกรีเซอร์ไรด์ซึ่งเป็นไขมันอันตรายต่อร่างกาย
แม่ตั้งครรภ์รับประทานน้ำมันปลา บำรุงครรภ์อย่างไรให้ปลอดภัย
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรับประทานน้ำมันปลา ในช่วงอายุครรภ์น้อยกว่า 6 เดือน หากรับประทานในอายุครรภ์มากกว่า 6 เดือน อาจมีภาวะเลือดแข็งตัวช้า ส่งผลต่อการคลอดบุตรได้ จะให้ดีและปลอดภัยที่สุดคุณแม่ตั้งครรภ์เลือกรับประทานน้ำมันปลาธรรมชาติ มีมากในปลาทะเลน้ำลึกได้แก่ ปลาแมคเคอเรล ปลาแซลมอน ปลาแอนโชวี ปลาคอด ปลาเฮริ่งปลาทูน่า และปลาซาร์ดีน ปลากระพงแดง กุ้งทะเล ปูทะเล หากคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องการรับประทานชนิดเเคปซูลแนะนำให้ปรึกษาสูติแพทย์ เพื่อดูปริมาณที่เหมาะสมตามสภาพร่างกายแต่ละคนค่ะ
แม่ตั้งครรภ์รับประทานน้ำมันปลา มีอาการข้างเคียงหรือไม่
ทุกอย่างย่อมมีทั้งคุณและโทษ น้ำมันปลาก็เช่นเดียวกัน การทานน้ำมันปลาจะทำให้แม่ตั้งครรภ์มีอาการข้างเคียง ดังนี้
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ท้องเสีย
- เรอบ่อย
- ตรวจพบระดับน้ำตาลในเลือดและระดับคอเลสเตอรอลอาจสูง
- มีกลิ่นตัวคล้ายกลิ่นปลา
- แพ้มากอาจมีผื่นคัน ควรพบแพทย์ทันที
อาหารบำรุงครรภ์และยาทุกอย่างมีประโยชน์และก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายเช่นกันหากรับประทานไม่ถูกวิธี คุณแม่ตั้งครรภ์ควรใส่ใจในการเลือกรับประทานยาหรืออาหารเป็นอย่างมาก เพราะอาจส่งผลต่อพัฒนาการทางร่างกายของทารกในครรภ์ โดยเฉพาะใน 12 สัปดาห์แรกที่เป็นช่วงที่ตัวอ่อนกำลังสร้างอวัยวะ หากเกิดความไม่มั่นใจให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอนะคะ
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่
1. 7อาหารบำรุงครรภ์ ปรับอารมณ์แม่ตั้งครรภ์ให้อารมณ์ดี
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team