พ่อแม่ยุคใหม่เข้าใจอีคิว
ยุคสมัยนี้เน้นความฉลาดทางอารมณ์ ( EQ ) พอๆกับความฉลาดทางด้านสติปัญญา (IQ) ต้องมีทั้งสองอย่างควบคู่กันไป การที่ลูกรักของคุณจะมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่แสนฉลาดนั้น ต้องอ้างอิงจากต้นแบบค่ะ นั่นหมายถึงคุณพ่อคุณแม่นั่นเอง คุณพ่อคุณแม่บางคนมีไอคิวสูง แต่อีคิวต่ำ อย่ากังวลไปเลยค่ะวันนี้มาเปิดใจพัฒนาอีคิวคุณพ่อคุณแม่ไปพร้อมๆกับการพัฒนาอีคิวลูกของคุณดังนี้ค่ะ
1. เข้าใจในอารมณ์ความรู้สึกของลูกเป็นพื้นฐานสำคัญของการฝึกทักษะทางอารมณ์ พ่อแม่ต้องตระหนักในความสำคัญ และไวในการรับรู้ภาวะอารมณ์ของลูก เข้าใจและยอมรับอารมณ์ที่เกิดขึ้นของลูก ไม่ดูถูก ล้อเลียน หรือตำหนิติเตียน ที่ลูกแสดงอารมณ์ต่างๆ ออกมา เช่น “แม่เข้าใจ ลูกคงเสียใจมากที่เพื่อนไม่เข้าใจความหวังดีของลูก”
2. สอนทักษะทางอารมณ์ในขณะที่ลูกกำลังเกิดอารมณ์นั้นๆ อยู่ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ด้านบวกหรือลบและเป็นโอกาสที่จะได้ใกล้ชิด ลูกจะเข้าใจได้ดีถ้าสอนขณะที่อารมณ์นั้นๆ ยังคงอยู่
3. รับฟังและยอมรับความรู้สึกของลูกที่เกิดขึ้น ให้ลูกรู้ว่าไม่ผิดที่เขาจะรู้สึกเช่นนั้น และสะท้อนคำพูดความรู้สึกของเขา เช่น “เข้าใจที่ลูกบอกว่าลูกผิดหวังที่คุณพ่อผิดสัญญา ลูกคงเสียใจและน้อยใจ”
4. ช่วยลูกหาชื่อที่ใช้เรียกอารมณ์ที่เขากำลังมีอยู่ รวมทั้งช่วยเขาหาคำอธิบายเกี่ยวกับอารมณ์นั้นๆ ให้รู้จักอารมณ์ของเขาให้ชัดเจน เช่น “ลูกกำลังรู้สึกโกรธ เพราะน้องมาทำของหนูเสีย เวลาใครมาทำให้ของที่รักเสียหาย เราก็รู้สึกโกรธ ไม่พอใจ และอยากจะโต้ตอบเขาบ้าง”
5. กำหนดขอบเขตพฤติกรรมที่จะแสดงออกในอารมณ์นั้น ๆ ให้ลูกเข้าใจว่าอารมณ์ ความรู้สึกทุกชนิดเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ แต่พฤติกรรมที่จะแสดงออกขณะนั้น ๆ มีขอบเขตจำกัด
การฝึกทักษะทางอารมณ์จะสำเร็จได้นั้นสิ่งสำคัญอยู่ที่ผู้ฝึก คุณพ่อคุณแม่ต้องเสียสละเวลาให้กับลูก คุณพ่อคุณแม่ต้องมีความอดทนสูง ใจเย็น ไม่ปิดกั้นการแสดงอารมณ์ด้านลบของลูก แต่ใช้เป็นโอกาสในการแนะนำพฤติกรรมและปรับพฤติกรรมที่เหมาะสมให้กับลูก แค่นี้ลูกรักของคุณก็จะมีความฉลาดทางอารมณ์ค่ะ