สิวสเตียรอยด์
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย เชื่อได้เลยสิวสเตียรอยด์ หรือสิวติดสาร ยังคงเป็นปัญหาผิวหน้าอันดับต้น ๆ ที่สามารถเกิดในทุกเพศทุกวัย ถือเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่รักษาหายยาก โดยลักษณะของสิวจะมีตุ่มหนองและตุ่มน้ำ ขึ้นพร้อมกันทีเดียวบนใบหน้า ทำให้บางคนสูญเสียความมั่นใจ ในการชีวิตไปเลย มาเช็คกันหน่อยสิว่า เพราะอะไรสิวสเตียรอยด์ถึงเป็นปัญหากวนใจอยู่เรื่อย ๆ และมีวิธีใดบ้างที่จะหยุดวงจรสิว ไม่ให้เกิดซ้ำ
สาเหตุของการเกิดสิวสเตียรอยด์
สิวสเตียรอยด์ (Acneiform Eruption) เกิดจากการอักเสบของเซลล์รูขุมขน และมีการหลั่งของเสียออกนอกเซลล์ จึงไปรวมตัวกับน้ำมันบนใบหน้า ทำให้เกิดเป็นผื่นสเตียรอยด์ โดยลักษณะของสิวที่เกิดมักเป็นตุ่มน้ำ ตุ่มหนอง หรือเป็นผื่นแดง สามารถเกิดขึ้นไปพร้อมกันทั่วใบหน้าหรือขึ้นทีละนิด ส่วนใหญ่มักพบบริเวณที่โดนสารสเตียรอยด์และผิวนี้จะไวต่อการกระตุ้นมากกว่าปกติ สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวสเตียรอยด์มีเหตุผลหลัก ๆ ดังนี้
การใช้เครื่องสำอางค์ที่มีสารสเตียรอยด์เป็นส่วนประกอบ ปัจจุบันเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ ยังเจอได้ทั่วไปในท้องตลาด โดยเฉพาะครีมที่เคลมว่าช่วยให้หน้าขาวใสภายในเวลาอันรวดเร็ว หรือครีมรักษาสิวที่ไม่ได้มาตรฐาน ครีมเหล่านี้มักมีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์สูง เนื่องจากสารสเตียรอยด์มีคุณสมบัติในการช่วยลดผิวอักเสบ และช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน ขาวกระจ่างใส แต่หากเลิกทาจะทำให้เกิดอาการ ผิวหน้าติดสารสเตียรอยด์ ทำให้ผิวบอบบางแพ้ง่าย และเกิดสิวสเตียรอยด์ตามมานั่นเอง
การใช้ยารักษาสิวที่ผสมสารสเตียรอยด์ ในทางการแพทย์สารสเตียรอยด์ได้ถูกนำมาใช้บางกรณี เพื่อรักษาผดผื่น แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ โดยส่วนใหญ่สามารถใช้ได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์ หากอาการแพ้ไม่ดีขึ้น ควรหาทางรักษาวิธีอื่นที่อาจให้ผลดีกว่า
การฉีดสิว การฉีดสิวให้ยุบในเวลาที่รวดเร็ว ตามคลินิกความงามต่าง ๆ มักใช้สารสเตียรอยด์เข้ามาช่วย เนื่องจากทำให้สิวยุบภายใน 1-2 วัน หากฉีดเป็นประจำ อาจทำให้ผิวหน้าติดสารสเตียรอยด์ได้
วิธีการรักษาสิวสเตียรอยด์
วิธีการรักษาสิว สำหรับคนที่เป็นสิวสเตียรอยด์ อาจจะต้องใช้เวลาประมาณหนึ่ง ขึ้นอยู่กับปริมาณสิวที่ขึ้นบนใบหน้า ขอเพียงอย่าใจร้อนและอดทนรอ แต่เมื่อทราบว่าเกิดความผิดปกติบนใบหน้าควรหยุดใช้ครีมนั้น ๆ เพื่อไม่ให้สิวเห่อขึ้นมากกว่านี้ และสามารถรักษาสิวสเตียรอยด์ได้ ดังนี้
1.พบแพทย์
หากอาการติดสารมีความรุนแรง เช่น ใบหน้าแดงบวม อักเสบ และมีอาการแสบร้อน ควรรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อให้เราได้รับการรักษาที่ถูกวิธี อาการความรุนแรงต่าง ๆ จะได้ทุเลาลง
2.ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างที่มีความอ่อนโยนต่อผิวมากเป็นพิเศษ
สำหรับผิวติดสารสเตียรอยด์ ผิวหน้าจะถูกทำลายให้อ่อนแอลง เพราะฉะนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้า ควรเลือกสูตรที่ต้องอ่อนโยนเป็นพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน ซิลิโคน หรือสารทำร้ายผิวต่าง ๆ
3.งดพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อผิวหน้า
ในช่วงที่ผิวกำลังอักเสบและมีสิวสเตียรอยด์เห่อขึ้นมา ผิวหน้าของเราย่อมเซนซิทีฟอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นควรหยุดและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ทำให้การอักเสบเกิดความรุนแรงมากขึ้นไปอีก ตัวอย่างเช่น การขัดหน้า การสครับหน้า นวดหน้า หรือการลอกหน้า เป็นต้น
4.หลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดโดยตรง
เนื่องจากแสงแดด ประกอบไปด้วยรังสียูวีเอและยูวีบี ซึ่งสามารถทำร้ายผิวของเราได้โดยตรง การหลีกเลี่ยงแสงแดด สำหรับคนเป็นสิว ค่อนข้างจำเป็น เพราะนอกแสงแดดจะทำร้ายผิวแล้ว ยังไปกระตุ้นให้สิวเห่อมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย แต่สำหรับคนที่ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้จริง ๆ ควรทาครีมกันแดดที่ไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองใด ๆ กับผิวหน้า และต้องป้องกันรังสียูวีได้ทุกชนิด
5.เน้นบำรุงผิวหน้าให้แข็งแรง
ในสภาวะที่หน้าเป็นและผิวอ่อนแอ ไวต่อการแพ้สิ่งต่าง ๆ การเลือกครีมบำรุงผิวเป็นสิ่งสำคัญ โดยให้เน้นใช้ครีมที่การเติมน้ำ หรือเติมความชุ่มชื่นให้กับผิว ควรมีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่เหนียว หรือเนื้อหนักเกินไป เพราะจะทำให้เกิดการอุดตัน และต้องไม่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน พาราฟิน สี และซิลิโคน เนื่องจากสารเหล่านี้มักก่อให้เกิดการระคายเคือง
การป้องกันสิวสเตียร์รอยด์ ทำได้อย่างไร
จากการสำรวจพบว่าสิวสเตียรอยด์ส่วนใหญ่ มีสาเหตุมาจากการเลือกใช้ครีมทาหน้าผิดประเภท ซึ่งถูกโน้มน้าวด้วยการโฆษณาเกินจริง ทำให้เราหลงเชื่อ จนสุดท้ายเมื่อทาครีมเหล่านั้นนานขึ้นเรื่อย ๆ อาการแพ้หรือความผิดปกติจะค่อย ๆ เริ่มปรากฏ เพราะฉะนั้นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด คืออย่าเชื่อคำโฆษณา และควรหาข้อมูล การรีวิวต่าง ๆ ก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้การเลือใช้สกินแคร์เคาเรอร์แบรนด์ ที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย และได้รับการรับรองจากหลายสถาบัน จะช่วยลดโอกาสการเกิดสิวจาก สารสเตียรอยด์ได้
ความน่ากลัวของผิวหน้าที่ติดสารสเตียรอยด์นั้น ต้องใช้เวลาในการรักษาฟื้นฟูผิวเป็นเวลานาน เนื่องจากเซลล์ผิวเกิดการอักเสบและถูกทำลาย ทำให้การสร้างเซลล์ใหม่ช้าลง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงครีมที่ให้คำโฆษณาเกินจริง เช่น หน้าขาวใส ไกลสิว ภายใน 3 วัน ซึ่งแน่นอว่าครีมเหล่านี้มีราคาถูก แต่รับรองได้เลยว่าไม่คุ้มค่ากับผลที่ตาม
บทความแนะนำเพิ่มเติม
1.5 แผ่นแปะสิว เซเว่น ใช้ง่าย สิวหายทันใจ สาว ๆ ต้องลอง
2.6 วิธีรักษาสิว กำจัดสิวอักเสบ ทำแล้วเห็นผลเร็วทันใจ
3.วิธีรักษาสิวที่หลัง บอกลาปัญหาสิวมากวนใจ ด้วยวิธีสุดง่าย
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team