พ่อแท้ๆ บังคับลูกสาว 2 ขวบดูดบุหรี่ ซ้ำวิดีโอคอลเย้ยพ่อตา

06 June 2019
1119 view

เรื่องความรุนแรงในครอบครัว เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ถึงแม้จะเป็นสถาบันที่เล็กแต่เป็นแหล่งบ่มเพาะมนุษย์ขั้นแรกก่อนออกไปสู่ภายนอก หากมีความรุนแรงเกิดขึ้น ก็อาจทำให้กระทบต่อกาารใช้ชีวิต ของคนในครอบครัว อย่างกรณีนี้ ที่ทางมูลนิธิปวีณณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้แชร์เรื่องราวของเด็ก 2 ขวบที่ถูกกระทำอย่างรุนแรงทั้งร่างกาย และจิตใจจากพ่อแท้ๆ รายละเอียดเป็นอย่างไรไปติดตามกันเลยค่ะ

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา Fanpage : มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีพสต์เรื่องราวของคุณแม่ท่านหนึ่ง ที่ร้องมายังมูลนิธิฯ ระบุว่า “ลูกสาว 2 ขวบ ถูกพ่อแท้ๆลักพาตัวไป หลังทะเลาะกับตนรุนแรงเรื่องการหึงหวง ซึ่งตอนนี้ไม่ทราบว่าลูกสาว และสามีอยู่ที่ไหน แต่มีการติดต่อแบบวิดีโอคอลมาทางพ่อของตน และในครั้งนั้นสามีบังคับให้ลูกสาว ดูดบุหรี่ และพ่นควันใส่ลูกจนสำลัก อาเจียนออกมา  ตนต้องการนำตัวลูกกลับมา” โดย "ปวีณา" ประสาน ผกก.สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี และผกก.สภ.นาจอมเทียน จ.ชลบุรี ลงพื้นที่โดยมีเจ้าหน้ามูลนิธิปวีณาฯ ร่วมด้วย ติดตามตัวเด็กคืนสู่อ้อมอกแม่ได้ภายในวันเดียว

นางสาวนก (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ผู้จัดการสถานเสริมความงานแห่งหนึ่ง เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2562  เปิดเผยว่า ตนอยู่กินกับนายเอก(นามสมมติ)อายุ 33 ปี ใน จ.ปทุมธานี มา 4 ปี และมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน วัย 2 ขวบ ระยะหลังตนสังเกตว่าสามีเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ทำงาน และมักทะเลาะกับตนเรื่องหึงหวงบ่อยขึ้น

ซึ่งวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา ตนถูกทำร้ายร่างกาย จึงไปแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.เมืองปทุมธานี และในวันนั้นสามีขับรถของตนพาลูกสาวออกจากบ้าน พร้อมขโมยโทรศัพท์มือถือไปด้วย ตนพยายามตามหาลูกสาวตามบ้านของญาติสามี แต่พบเพียงรถของตนที่สามีขับไป พ่อของตนพยายาม เกลี้ยกล่อมให้นายเอกนำหลานมาคืนแต่ก็ไม่เป็นผล

จากนั้น พ.ต.อ.พงศ์พัชร์ ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจสอบพิกัดของนายเอกจากโทรศัพท์มือถือจนทราบว่าอยู่ในพื้นที่ ต.นา จอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงรีบดินทางไปยังที่หมายดังกล่าวทันที ขณะที่ทั้งหมดกำลังเดินทางมุ่งหน้าไปที่เเกิดเหตุ ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.นาจอมเทียน และนางพานี จันทร์ปรุงตน หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรีลงพื้นที่ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนครั้งนี้ด้วย

เมื่อถึงบ้านน้าสาวของนายเอก หรือพิกัดเกิดเหตุนางสาวนก ได้เข้าไปพูดคุยกับน้าสาว แต่ได้รับการปฎิเสธว่านายเอกไม่ได้พาลูกมาอยู่ที่นี่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อจึงพยายามเกลี้ยกล่อมน้าสาวขอให้ช่วยเจรจากับนายเอกให้นำลูกมาคืนเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเด็ก ซึ่งจากนั้นไม่นานนายเอกก็ได้แอบนำลูกสาวมาส่งให้น้าสาว และน้าสาวได้ส่งลูกคืนให้กับนางสาวนกแต่โดยดี

จากกรณีนี้เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ ที่ทำเอาลุ้นไปตามๆ กัน หวั่นว่าเด็กหญิงจะเป็นอันตราย สุดท้ายนี้ฝากถึงทุกบ้านที่มีปัญหาลักษณะนี้ สิ่งสำคัญคือการปรับความเข้าใจ ไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงในครอบครัว เพราะข้อเสียมักมีมากกว่า ให้คำนึงถึงความถูกต้อง เลี่ยงการใช้ความรุนแรงที่อาจทำร้ายด้านร่างกาย และจิตใจ ด้วยความห่วงใยจาก Mamaexpert

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team

ขอบคุณภาพ/ข้อมูลจาก : มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี