ประสบการณ์การสูญเสียของครอบครัวผู้ใช้ Faceboook ท่านหนึ่ง ที่ทำเอาหลายคนหดหู่ไปตามๆ กันเพราะต้องเสียหนูน้อย ที่มีโอกาสลืมตาดูโลกเพียงไม่นานก็ต้องจากไป ไปติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมกันเลยค่ะ
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 เว็บไซต์ข่าวไทยรัฐรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Prnungning Supassorn" ได้ออกมาโพสต์แชร์เรื่องราวของพี่สะใภ้ ที่ต้องเสียลูกน้อยไป ในโพสต์ระบุว่า “ฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ สำหรับคุณแม่ทั้งหลาย เรื่องมีอยู่ว่า...พี่สะใภ้เราตั้งท้อง คนท้องทั่วไปตามวิธีก็คือต้องไปฝากท้องกับหมอ พี่สะใภ้เราก็ได้ไปฝากท้องกับคุณหมอชื่อดังที่คลินิกแห่งนึงในตัวเมืองโคราช(นครรราชสีมา) ก็ไปตรวจตามที่หมอนัดทุกเดือน จนล่าสุดวันที่ 10 พ.ค 2562 ได้ไปหาหมอที่คลินิกอีกครั้ง ตรวจปกติ หมอแจ้งว่า นัดอีกทีวันที่ 17 พ.ค 2562 ถ้าคนไข้ปวดท้องก่อนหรือมีอาการผิดปกติอะไรให้รีบแจ้งและมาหาหมอทันทีได้เลย .. เช้าวันที่ 12 พ.ค 2562 เวลาประมาณ 06:30 น. น้ำคล่ำแตก ก็รีบมาส่ง รพ ทันที ถึงเวลา 08:00 น. พยาบาลหน้าห้องคลอดบอกให้รอที่ ห้องรอคลอด พยาบาลวัดคลื่นหัวใจหลานเราบ่อยครั้ง วัดครั้งสุดท้ายเวลาประมาณ 12:30 น. พยาบาลแจ้งว่าเด็กหัวใจเต้นช้าลงเรื่อยๆ เลยรีบเข้าห้องคลอด รอผ่าทันที ก่อนจะผ่าวางยาสลบ พี่สะใภ้ บอกว่า พยาบาลแจ้งว่าหมอยังไม่มา... ผ่านเวลาไปผ่าเด็กออกมา แจ้งว่าเด็กสายสะดือหลุด เด็กไม่หายใจตั้งแต่ออกมาจากท้อง แพทย์กุมารเวช(หมอเด็ก) มารับไปดูแลต่อ ช่วยอย่างเต็มที่ ช่วยทุกวิธี ไม่มีการตอบสนองในทุกๆทาง จนหัวใจหยุดเต้นไปเอง วันที่ 13 พ.ค 2562 เวลา 11:45 น. หลังจากนั้นน้าเราได้โทรไปสอบถามหมอ ได้คำอธิบายว่า .. น้ำคล่ำแตกก่อนเวลาไม่รู้ว่าคนไข้ไปทำอะไรมาไปนอนท่าไหนถึงเป็นแบบนี้ได้ รพ.หลวงต้องทำใจ ต้องตามคิว แล้วลงท้ายด้วย ไม่ต้องโทรมาอีกนะ นี่คือคำพูดของหมอหรอค่ะ จรรยาบรรณของหมอคืออะไร???
เด็กแข็งแรงสมบูรณ์ร่างกายครบ 32 ประการ ทุกอย่างทำไมเหตุการณ์ถึงได้รุนแรงและเลวร้ายมากขนาดนี้ เคยเห็นเคยอ่านแต่เรื่องราวของคนอื่น ไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดกับครอบครัวตัวเอง
อาขอให้หนูไปสู่ภพภูมิที่ดีนะลูก”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สะเทือนใจหลายๆคน ทาง Mamaexpert ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียด้วยนะคะ และข้อเท็จจริงเบื้องลึกยังไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วน้องเสียชีวิตเพราะอะไรกันแน่ หรือเป็นเพราะการช่วยเหลือล่าช้าก็ยังไม่มีการออกมาแถลงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ถึงอย่างไรต้องรอติดตามกันต่อไปกับกรณีนี้
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team
ขอบคุณภาพ/ข้อมูลจาก : ไทยรัฐ และPrnungning Supassorn