เหตุการณ์สะเทือนใจ มีให้เห็นรายวัน เรื่องราวนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่บอกเลยว่าหดหู่สุดๆ แม่วัย 33 ปี ทิ้งลูกสาวไว้ลำพัง พร้อมฝากจดหมายลาตายเอาไว้ ลูกนั่งร้องไห้รอแม่กลับมา เพราะอะไรเธอถึงตัดสินใจทำอย่างนั้น ตามมาดูรายละเอียดของข่าวนี้กันเลยค่ะ
เว็บไซต์ข่าวไทยรัฐรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา เวลา 20.40 น. ร.ต.อ.พัศวัฒน์ พัตพัน รองสว.(สอบสวน) สภ.บางปะกง พร้อมหน่วยกู้ภัยเทศบาลตำบลท่าข้าม หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ตรวจสอบเหตุคนกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย กลางสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ถนนเทพรัตน(บางนา-ตราด) กม.50 ช่องคู่ขนาน ขาเข้ากทม. หมู่ 4 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง พบมีชาวบ้านยืนอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีขาว-แดง ทะเบียนชลบุรี จอดอยู่บนสะพาน มีกระเป๋าใส่ของ ขวดน้ำ และยังพบเด็กผู้หญิงอายุ 4 ขวบยืนอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบแม่ของเด็ก
ต่อมาเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลท่าข้ามที่ผ่านพบ เด็กผู้หญิงนั่งร้องไห้บนสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง สอบถามเบื้องต้นบอกว่าแม่ทะเลาะกับพ่อเลี้ยงที่ชลบุรี แล้วขี่รถจักรยานยนต์พาตนมาที่สะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงโดยแม่ร้องไห้ตลอดเวลา แม่บอกว่าจะลงไปหาหอเดี๋ยวขึ้นมา ซึ่งทางตำรวจได้ตรวจค้นกระเป๋าจนพบจดหมายลาตายเขียนไว้ในสมุดใจความว่า “เชื่อเถอะทุกครั้งที่เรามีการสูญเสีย เราจะมีสิ่งใหม่ๆ ที่ดีกว่าเข้ามาแทนที่กันเสมอ อย่าเสียใจอะไรให้มากเลย” พร้อมเบอร์โทรติดต่อญาติ ซึ่งทางตำรวจสามารถติดต่อญาติได้ก่อนจะพาเด็กไปพักที่สภ.บางปะกง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ชาวบ้านนำเรือออก ช่วยกันค้นหานร่างของแม่เด็ก
เวลาผ่านเกือบ 45 นาที ทางเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้วนขับเรือไปใกล้ท่าเรือคัตซาว่า หมู่ 1 ต.บางปะกง อ.บางปะกง ก็ไปพบแม่ของเด็กกำลังเดินลุยเลนขึ้นมาจากแม่น้ำในสภาพหมดแรงจึงรีบลงไปคว้าตัวแล้วนำขึ้นฝั่ง พบอยู่ในอาการสำลักน้ำ ปวดท้อง ปวดศีรษะ ยังไม่มีสติ เจ้าหน้าที่รีบปฐมพยาบาลก่อนจะเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลบางปะกงทันที ทราบชื่อ น.ส.มิ้น(นามสมมติ) อายุ 33 ปี โดยมีนายสุทิน อายุ 42 ปี สามีเดินทางมายังที่เกิดเหตุก่อนจะมาดูอาการแล้วเดินทางไปยัง สภ.บางปะกง เพื่อรับตัวเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ที่เป็นลูกเลี้ยงกลับบ้าน
เบื้องต้น นายสุทิน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์จากบ้านที่อ่างศิลา มาไหว้พระที่ศาลหลักเมืองชลบุรี ในอำเภอเมืองชลบุรี ระหว่างนั้น น.ส.มิ้น บ่นเรื่องตัวเองที่ป่วยแล้วรักษาไม่ยอมหาย ตนพยายามพูดปลอบใจ แต่สุดท้ายก็มีปากเสียงกัน ก่อนที่น.ส.มิ้น บอกว่าจะพาลูกสาวขี่มาซื้อของ จากนั้นก็หายตัวไปโดยตนพยายามโทรติดต่อแต่ไม่ยอมรับสาย จนมาทราบข่าวว่ามากระโดดน้ำฆ่าตัวตายจึงรีบมาทันที ซึ่งน.ส.มิ้น น่าจะเครียดเรื่องอาการป่วยหลายโรค ทำให้ทะเลาะกันเกือบทุกวัน
กรณีดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เตือนใจได้เป็นอย่างดี ที่สามารถมองได้หลายแง่มุม ทั้งการให้กำลังใจของคนในครอบครัว รวมไปถึงวิธีการแก้ไขปัญหาที่อาจจะมีหลายทางออกสำหรับชีวิต หากแต่ต้องมีคนให้คำปรึกษา เมื่อเลือกตัดสินใจไปแล้วอาจจะไม่มีโอกาสแก้ไขได้อีก การที่ลูกต้องขาดแม่ หรือชีวิตนับจากนี้ของลูกจะเป็นอย่างไร หากการฆ่าตัวตายครั้งนี้สำเร็จ แต่ยังโชคดีที่คุณแม่ท่านนี้ถูกช่วยชีวิตไว้ได้ทัน และเธอยังมีโอกาสที่จะเลือกทางเดินอีกครั้ง ท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างมักมีทางออกที่ดีกว่าเสมอ เพียงแต่ต้องใช้เวลา ควบคู่ไปกับกำลังใจในการใช้ชีวิต
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team
ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐ