ปัจจุบันยังพบว่าสถิติเด็กแพ้โปรตีนในนมค่อนข้างสูง ทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้ยินคำว่า “แพ้นม” กันมากขึ้น ซึ่งคำว่าแพ้นมก็คือการที่เด็กแพ้โปรตีนในนมนั่นเอง อาการแพ้โปรตีนในนมส่วนใหญ่เป็นภาวะเพียงชั่วคราว อาการแพ้จะหายได้เมื่อเด็กได้รับการดูแลที่ถูกต้องและเหมาะสม คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจคิดว่าการแพ้โปรตีนในนมเป็นเรื่องไม่อันตราย ที่จริงแล้วการแพ้นี้อาจส่งผลต่อเนื่องในอนาคตของเด็กได้ เช่น ทำให้เด็กหลับไม่สนิทส่งผลให้เด็กเรียนไม่รู้เรื่อง ง่วงซึม หรืออาจเสี่ยงต่อการแพ้ยาและอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้อื่นๆ ได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องรู้และสังเกตอาการของการแพ้โปรตีนในนมให้เป็น เพื่อลดและหลีกเลี่ยงจากสิ่งที่ลูกน้อยแพ้ Mama expert ชวนคุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักกับการแพ้โปรตีนในนมในเด็กกันค่ะ
แพ้โปรตีนในนมชัวส์หรือไม่ เช็คอย่างไรดี
การแพ้โปรตีนในนม อาการแพ้ของเด็กแต่ละคนอาจจะแสดงออกมาไม่เหมือนกัน ซึ่งอาการแพ้ที่พบได้บ่อยที่สุดในเด็กเล็กคือ
- มีผื่นเม็ดเล็กๆ ขึ้น ที่ใบหน้า ศีรษะ แขน ข้อศอก ข้อมือ ลำตัว
- คันบริเวณปาก มีอาการบวมที่ปากหรือลำคอ หรือบวมทั้งตัว
- ท้องเสียบางครั้งถ่ายเป็นมูกเลือดในกรณีที่แพ้รุนแรงมาก
- อาเจียนทุกครั้งหลังกินนม
- ร้องงอแงผิดปกติ
- หายใจครืดคราด
หากลูกรักมีอาการ1ใน6ข้อตามที่กล่าวมา คุณพ่อคุณแม่ต้องสงสัยไว้ก่อนว่าลูกอาจแพ้โปรตีนในนม เด็กเล็กที่แพ้โปรตีนในนม อาจไม่แสดงอาการในทันที บางรายเกิดอย่างรวดเร็วภายใน 1 ชั่วโมง หรือเด็กบางรายแสดงอาการหลังจากรับประทานภายใน 48 ชั่วโมง ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดหากไม่มั่นใจควรปรึกษากุมารแพทย์
วิธีลดความเสี่ยงการแพ้โปรตีนในนม
วิธีลดความเสี่ยงในการแพ้นมได้ดีที่สุด คือ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้นานที่สุดเท่าที่คุณแม่จะสามารถทำได้ เพราะน้ำนมแม่มีโปรตีนที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้และยังมีองค์ประกอบที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกหลายชนิด เช่น พรีไบโอติก แต่ก็มีคุณแม่หลายท่านที่ไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ อาจจะด้วยคุณแม่มีน้ำนมน้อย ไม่เพียงพอ หรือในกรณีที่คุณแม่ได้รับยาเฉพาะทางที่ฤทธิ์ของยาอาจส่งผ่านทางน้ำนม ดังนั้นการเลือกนมให้ลูกรักจึงต้องเลือกนมที่มีสัดส่วนของโปรตีนเบต้าแลคโตกลอบูลินต่ำ ซึ่งโปรตีนเบต้าแลคโตกลอบบูลิน เป็นโปรตีนก่อการแพ้ที่มีขนาดใหญ่ จึงทำให้เกิดการแพ้ได้ง่าย โดยพบว่าในนมวัวมีโปรตีนชนิดนี้มากถึง 41% ในขณะที่นมแพะมีโปรตีนชนิดนี้เพียงแค่ 14% หรือน้อยกว่าในนมวัวถึง 3 เท่า นมแพะจึงก่อให้เกิดการแพ้น้อยกว่า ที่สำคัญโปรตีนจากนมแพะ ย่อยและดูดซึมได้ง่าย ทำให้ลูกสบายท้อง ท้องไม่อืด เพราะมีเบต้าเคซีนในปริมาณสูง ยิ่งกว่านั้น ในนมแพะยังมี Prebiotics อย่าง Inulin & Oligofructose ที่เป็นตัวกระตุ้นการเจริญของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ช่วยให้ลูกน้อยขับถ่ายดี ท้องไม่ผูก สร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ไม่ป่วยบ่อย นมแพะ ยังประกอบด้วยสารอาหารสำคัญ อย่าง DHA, ARA, Taurine, Choline, Omega 3 6 9 พร้อมมีวิตามิน B12 สูง ที่มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง มีแคลเซียมสูง ที่มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง ทำให้ลูกน้อยเจริญเติบโตได้เต็มที่ ร่างกายแข็งแรง และช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดีสมวัย
อย่างไรก็ตาม นมแม่ คือสารอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย คุณแม่ทุกคนควร เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วนใน 6 เดือนแรก และควรให้ลูกดื่มนมแม่ต่อเนื่องให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้าหากคุณแม่มีความจำเป็นต้องให้นมเสริมกับลูกน้อย “นมแพะ” คือหนึ่งทางเลือกที่ Mama expert อยากแนะนำและบอกต่อ รับรองว่าลูกน้อยไม่แพ้โปรตีนในนมและมีพัฒนาการที่ดีสมวัยแน่นอนค่ะ
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team
อ้างอิง :
1.ประโยชน์ของนมแพะ. เข้าถึงได้จาก https://www.dgsmartmom.com/benefits-of-product/. [ค้นคว้าเมื่อ 9 มีนาคม 2561].
2.นพ.ปานรวี มีมารยาตร์. เมื่อเจ้าตัวเล็กแพ้โปรตีนนมวัว. เข้าถึงได้จาก https://goo.gl/gLN76n. [ค้นคว้าเมื่อ 9 มีนาคม 2561].
3.รศ.พญ.ชลีรัตน์ ดิเรกวัฒนชัย. ผู้เชี่ยวชาญโรคภูมิแพ้ในเด็กโรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล.เข้าถึงได้จาก https://www.youtube.com/watch?v=y4HZEiFqH_8. [ค้นคว้าเมื่อ 9 มีนาคม 2561].
4. Larissa Hirsch, MD.About Milk Allergy.เข้าถึงได้จาก http://kidshealth.org/en/parents/milk-allergy.html .[ค้นคว้าเมื่อ 9 มีนาคม 2561].