ภาวะโลหิตจางขณะตั้งครรภ์
อันตรายของภาวะโลหิตจางขณะตั้งครรภ์ ปกติในเม็ดเลือดแดงจะมี “ฮีโมโกลบิน” สารโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบสำคัญ ซึ่งในเวลาที่หายใจเข้า ฮีโมโกลบินจะทำหน้าที่นำออกซิเจนจากปอดไปเลี้ยงเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ทั่วร่างกาย รวมถึงถ่ายออกซิเจนไปสู่รกเพื่อให้เซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ของแม่และลูกในท้องทำหน้าที่ได้ตามปกติ แต่หากร่างกายขาดธาตุเหล็กกระบวนการดังกล่าวมักผิดปกติไป ส่งผลมากมายต่อมารดาและทารกในครรภ์
ภาวะโลหิตจางขณะตั้งครรภ์เกิดจากอะไร
ภาวะเลือดจาง หรือ เลือดจาง เกิดจากการที่ฮีโมโกลบินต่ำกว่าปกติ หรือมีเม็ดเลือดแดงปริมาณน้อยกว่าเกณฑ์ปกติ ทำให้การลำเลียงออกซิเจนไปยังอวัยวะต่างๆ ได้ไม่ดี ขณะตั้งครรภ์จะมีเลือดเพิ่มขึ้นมากกว่าคนปกติ ทำให้ความเข้มข้นของเลือดลดลง โดยระดับของฮีโมโกลบินในช่วงตั้งครรภ์จะค่อยๆ ลดลงอยู่ และจะกลับสู่ค่าปกติหลังคลอดบุตรประมาณ 6 สัปดาห์ และในระหว่างตั้งครรภ์หากโลหิตจางมากอาจเป็นอันตรายต่อมารดาและทารกได้ เช่น การได้รับสารอาหารโดยเฉพาะธาตุเหล็กไม่เพียงพอ ขาดกรดโฟเลต ริดสีดวงทวารเลือดออกเนื่องจากมีแผลในกระเพาะอาหาร หรือเป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย ซึ่งเป็นโรคทางกรรมพันธุ์ เป็นต้น
คุณแม่ตั้งครรภ์ถ้ามีภาวะโลหิตจางจะมีอาการอย่างไร?
- หน้าซีด เหนื่อยง่าย เวียนหัวและเป็นลมบ่อยๆ
- หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นไม่สม่ำเสมอ
- คลื่นไส้ เบื่ออาหาร
หากคุณแม่มีภาวะเลือดจางมากแล้ว อาจทำให้แท้งและคลอดก่อนกำหนด หรือระยะการคลอดนาน เนื่องจากมดลูกบีบรัดตัวไม่ดี และคุณแม่มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย อาจตกเลือดระหว่างคลอดบุตร คุณแม่มีภาวะเลือดจางในขณะตั้งครรภ์เลือดที่ไปเลี้ยงรกจะมีออกซิเจนน้อยกว่าปกติ ทำให้ออกซิเจนที่ส่งไปยังลูกในครรภ์มีน้อยกว่าจำนวนที่ควรได้รับซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อลูกได้ คือ …
- ทารกมีโอกาสพิการแต่กำเนิดสูง
- คลอดก่อนกำหนดและทารกน้ำหนักน้อย
- ทารกเสียชีวิตในครรภ์
- ทารกคลอดออกมาแล้วเสียชีวิต
- ทารกที่เกิดมาเป็นโรคโลหิตจาง
ภาวะโลหิตจางในคุณแม่ตั้งครรภ์ ป้องกันได้หรือไม่ ?
ก่อนตั้งครรภ์ ควรมีการตรวจเช็คร่างกายก่อนว่ามีภาวะเลือดจางหรือไม่ ถ้าเป็นเลือดจางจากการขาดธาตุเหล็กก็ควรกินอาหารเสริมให้ร่างกายเป็นปกติก่อนจึงตั้งครรภ์ และเมื่อตั้งครรภ์แล้วควรรีบไปฝากครรภ์เพื่อให้คุณหมอตรวจว่ามีภาวะเลือดจางหรือไม่ส่วนใหญ่แล้วแม่ท้องที่เลือดจางนานๆ ระหว่างตั้งครรภ์มักเกิดจากการขาดธาตุเหล็กดังนั้น คุณหมอจะให้ยาบำรุงเลือดที่มีธาตุเหล็กและวิตามินเสริมมาให้กินตลอดระยะที่ตั้งครรภ์ การกินอาหารของคุณแม่ก็สำคัญช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดจางได้ โดยอาหารที่คุณแม่ควรกินในระหว่างท้องเพื่อเสริมธาตุเหล็กให้ร่างกาย มีดังนี้
- โปรตีนจากเนื้อสัตว์ นอกเหนือจากเนื้อหมู ไก่ ไข่ และนมแล้ว คุณแม่ท้องควรกินปลาและอาหารทะเลอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง
- โปรตีนจากพืช ได้แก่ ถั่วต่างๆ และผลิตผลจากถั่ว เช่น เต้าหู้ โปรตีนเกษตร เป็นต้น
- ธัญพืช ผัก และผลไม้ เช่น ข้าวกล้อง จมูกข้าว แครอท แคนตาลูป ฟักทอง บร็อคโคลี ผักคะน้า เป็นต้น
- คุณแม่ท้องจะต้องกินอาหารที่มีกากใยร่วมด้วย เพราะธาตุเหล็กจะทำให้ถ่ายยากและอุจจาระดำค่ะ
และ 6 สัปดาห์หลังลอด สำหรับคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ก็ควรจะได้รับธาตุเหล็กไปจนถึง 6 เดือนหลังคลอด เพื่อไม่ให้ร่างกายของคุณแม่ขาดธาตุเหล็กและเกิดภาวะเลือดจางด้วยเช่นกันค่ะ
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่
1.อาหารบำรุงครรภ์ตลอด40สัปดาห์
2. ยาบำรุงครรภ์ลดความพิการของทารก
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team