อาการบวมขณะตั้งครรภ์
อาการบวมขณะตั้งครรภ์ เป็นปฏิกิริยาธรรมชาติเนื่องจากของเหลวในร่างกายเพิ่มขึ้น คุณแม่จะรู้สึกบวมที่บริเวณข้อเท้าและเท้าหากต้องยืนนานๆ และบวมที่นิ้วหรือหน้าด้วย อาการบวมมักเกิดขึ้นในตอนกลางวันและบวมเพิ่มมากขึ้นในช่วงเย็น จนสร้างความกังวลให้กับคุณแม่ Mamaexpert นำวิธีลดอาการบวมขณะตั้งครรภ์มาฝากแม่ๆทุกบ้าน มาดูกันเลยค่ะ
บวมขณะตั้งครรภ์ มีสาเหตุเกิดจาก
อาการบวมขณะตั้งครรภ์ เกิดจากขนาดของมดลูกที่ขยายตัวขึ้นในขณะตั้งครรภ์ ทำให้ไปกดทับหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองย้อนกลับไปที่หัวใจทำงานได้ไม่ดีพอ ทำให้เลือดเกิดการคลั่งอยู่บริเวณส่วนล่างของร่างกาย และอีกหนึ่งสาเหตุคือเวลาที่คุณแม่ตั้งครรภ์จะมีภาวะฮอร์โมนซึ่งเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลทำให้เนื้อเยื่อต่างๆ มีการดูดซึมน้ำมากกว่าปกติ กักเก็บน้ำมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการมือเท้าบวม หรือตัวบวมนั่นเองค่ะ
บวมขณะตั้งครรภ์ แก้ไขอย่างไรดี
- การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดิน และหลีกเลี่ยงการยืนนานๆ
- ดื่มน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว เพราะน้ำช่วยลดอาการบวมได้
- นอนยกขาให้สูงกว่าระดับหัวใจ จะช่วยให้เลือดที่คั่งอยู่ไหลกลับเข้าหัวใจได้มากขึ้น
- ควรนอนตะแคงซ้ายเพื่อไม่ให้น้ำหนักไปกดทับเส้นเลือดดำใหญ่ ซึ่งอยู่ทางด้านขวาของร่างกาย
- ควบคุมน้ำหนักขณะตั้งครรภ์ จะทำให้การหมุนเวียนเลือดดีขึ้นค่ะ
- การนวดแบบผ่อนคลาย การแช่เท้าในน้ำอุ่น ๆ ทำให้เลือดไหลเวียนดี ลดโอกาสที่จะเกิดเท้าบวมได้
- ไม่ใส่รองเท้าคับเกินไปและไม่ใส่ถุงเท้ารัดแน่นเกินไป
อาการบวมขณะตั้งครรภ์ที่เสี่ยงต่ออาการครรภ์เป็นพิษ
- เกิดอาการบวมขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น หน้าบวม ตัวบวม หรือข้อนิ้วบวม
- น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
- มีอาการปัสสาวะน้อยลง
- ปวดศีรษะรุนแรง
- ตาพร่ามัว หรือ มองเห็นแสงเป็นจุดๆ
- รู้สึกจุกแน่นบริเวณลิ้นปี่
คุณแม่ควรรีบไปพบแพทย์ถ้ามีอาการบวมร่วมกับอาการเหล่านี้ เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะครรภ์เป็นพิษ ซึ่งอาจเป็นอันตรายกับทารกและตัวคุณแม่เองได้
บทความแนะนำเพิ่มเติม
1. น้ำนมไหลขณะตั้งครรภ์ ผิดปกติหรือไม่?
2. อาหารบำรุงครรภ์ แบ่งตามอายุครรภ์ 1- 40 สัปดาห์