ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่โซเชียลมีการแชร์คลิป สุดฮาแบบคาดไม่ถึง หลังลูกชายตัวดีตั้งกล้องถ่ายตัวเอง แล้วหันไปคุยกับแม่ ที่กำลังยืนรีดผ้าอยู่ โดยมีพ่อนั่งอยู่ที่ประตู พร้อมกับพูดว่า “มามี้ๆ ตอนตั้มไปเที่ยวงานวันเด็กกับปาป๋า แม่ใหม่โคตรใจดีเลย ตามใจตั้มทุกอย่างด้วย” แต่ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงดี แม่ถึงกับยกเท้าถีบพ่อที่นั่งอยู่จนถาดกระเด็นเสียงดังลั่น ซึ่งพบว่ามีการแชร์ออกไปอย่างรวดเร็วนั้นเพียงวันเดียวมียอดชมเฉียด 8 ล้านวิว
ทั้งนี้ พบว่าเพจ เลี้ยงลูกนอกบ้าน ซึ่งเป็นจิตแพทย์ ได้แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องดังกล่าว ว่า การแกล้ง การใช้ความรุนแรง หรือการโกหกเพื่อให้คนอื่นเจ็บแล้วหัวเราะได้… “ไม่ใช่เรื่องสนุก” โดย หมอเป็นที่ปรึกษาโครงการยุติการล้อ แกล้ง รังแกในโรงเรียน ของ สสส. หมอพบว่าปัญหาสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ปัญหาการ ล้อ แกล้ง รังแกในโรงเรียนช่างเลวร้าย จนโรงเรียนกลายเป็นนรกของเด็กหลายคน คือ การที่ พ่อแม่ เด็ก ครู มีความเข้าใจว่าการแกล้งกัน มันโคตร “เป็นเรื่องธรรมดา” และหลายคนมองว่า “ก็แค่ขำๆ”
เด็กหลายคนกลายเป็นเด็กที่มีความสุข บนความทุกข์ของคนอื่น เด็กหลายคนไม่สนใจใครจะรู้สึกยังไง เอาให้ฉันมันส์สนุก เข้าไว้ ก็เป็นพอ เด็กหลายคนมีความสนุก ขบขัน แบบขาดความเห็นใจในความเดือดร้อนของผู้อื่น หลายครั้งของทัศนคติเหล่านั้น เกิดจากการซึมซับจากผู้ใหญ่ ที่มองเรื่องแกล้งกันมัน “ช่างธรรมดา” หรือ “น่าสนุกจริงๆ”
เด็กหลายคนโดนแกล้งจากผู้ใหญ่ในบ้าน เด็กหลายคนไม่เคารพใคร เพราะไม่มีใครในบ้านน่าเคารพ เด็กหลายคนเห็นการใช้ความรุนแรงเป็น “ความเคยชิน” การแกล้ง แหย่ ที่สนุก คือการแกล้ง แหย่แบบที่สนุกหัวเราะไปได้ด้วยกัน ไม่ใช่การแกล้งแบบที่ฉันสนุกฝ่ายเดียว และเมื่อไหร่ที่มีการใช้ความรุนแรง การแกล้งนั้นไม่ควรนับว่ามันเป็นเรื่องที่ดี
รักลูก… อย่าสอนลูกหรือทำให้ลูกเรียนรู้ว่าการแกล้งกันมันเป็นเรื่องสนุกสนานเฮฮานะคะ เพราะในความสนุกของลูกนั้น หลายคนพบว่ามันเป็นความทุกข์อันหนักหนาสาหัสซะจริงๆ #หมอโอ๋เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน ผู้ไม่อยากให้ภาพการโกหกหรือความรุนแรงกลายเป็นเรื่องสนุกสนานในสังคม ป.ล. อีกความรุนแรงที่ต้องระวัง คือความรุนแรงบนโลกออนไลน์ ที่พ่อแม่สร้าง(เพื่อเรียกยอดไลค์)ให้กับลูก… การเป็นที่รู้จัก การถูกตีตราว่า “เด็กแสบ” “เจ้าตัวร้าย” อาจสร้างความน่าอับอายและกลายเป็นฝันร้ายของเด็กหลายคน”
ขอบคุณข่าว : -ข่าวสด