วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก
จากการวิจัยร่วมของ 5 ประเทศ นำไปสู่การพัฒนาต่อจนได้เป็นวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกที่มีชื่อเป็นทางการว่า “เด็งวาเซีย” (Dengvaxia) ซึ่งบริษัทผู้ผลิตนั้นเป็นบริษัทของฝรั่งเศส วัคซีนนี้ผลิตขึ้นมาจากไวรัสที่มีชีวิตและถูกทำให้อ่อนฤทธิ์ลงเมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายแล้ว จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติต่อโรคไข้เลือดออก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการทดสอบกับอาสาสมัครกว่า 3 หมื่นกว่าราย ใน 2 ทวีปมาแล้ว และผลลัพธ์ที่ออกมาก็น่าพอใจ เรียกว่าเป็นวัคซีนที่สามารถป้องกันไข้เลือดออกได้ถึง 4 สายพันธุ์ แต่แน่นอนว่าไม่มีอะไรที่ 100% เสมอไป
ประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก
จากผลการศึกษาพบว่าวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกเด็งวาเซียนี้มีประสิทธิภาพ คือสามารถลดความรุนแรงของโรคได้ 93.2 % ลดอัตราการนอนโรงพยาบาล 80.8 % และความสามารถในการป้องกันโรคไข้เลือดออกทั้ง 4 สายพันธุ์อยู่ที่ 65.6 % คือประสิทธิภาพในการป้องกันโรคไข้เลือดออกในแต่ละสายพันธุ์นั้นจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งเราพบว่าสายพันธุ์ที่ 4 จะตอบสนองกับวัคซีนตัวนี้ได้ดีที่สุด ส่วนสายพันธุ์ที่ 2 จะตอบสนองกับวัคซีนนี้ได้น้อยที่สุด ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของวัคซีนนี้ก็มีอยู่หลายอย่างด้วยกันทั้งเรื่องของอายุ วัคซีนนี้จะได้ผลดีในกลุ่มเด็กอายุตั้งแต่ 9 ขวบ ไปถึงผู้ใหญ่อายุ 45 ปี ประวัติของการได้รับเชื้อของคนไข้ จากการศึกษาเราพบว่าผู้ที่เคยมีประวัติเป็นไข้เลือดออกมาก่อนจะตอบสนองกับวัคซีนตัวนี้ได้ดีกว่าผู้ที่ไม่เคยเป็น หรือไม่เคยได้รับเชื้อไข้เลือดออกและอีกปัจจัยก็คือชนิดของสายพันธุ์ไข้เลือดออกที่เป็นนั่นเอง
วัคซีนป้องกันไข้เลือดออกฉีดได้ทุกคนหรือไม่
จากคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้แจงว่าผู้ที่เหมาะสมเข้ารับวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก คือ ผู้มีอายุระหว่าง 9-45 ปี ที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีการแพร่ระบาดของโรค ยังไม่ได้แนะนำว่าควรที่จะฉีดวัคซีนนี้ทุกคน แต่จากคำแนะนำนี้ก็เท่ากับว่าคนไทยเราในช่วงอายุดังกล่าวเป็นกลุ่มที่เหมาะสมที่จะเข้ารับวัคซีนชนิดนี้ เพราะไทยเราเป็นโซนที่มีโรคไข้เลือดออกระบาด ซึ่งวัคซีนชนิดนี้จะฉีดทั้งหมด 3 เข็ม ห่างกันเข็มละ 6 เดือน หลังฉีดครบ 3 เข็ม ตามหลักวิชาการภูมิคุ้มกันจะยังคงอยู่ได้ แต่ต้องมีการติดตามกันไปเรื่อยๆว่าจะสามารถคุ้มกันได้ตลอดชีวิตหรือไม่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายของแต่ละคนกันไป ส่วนกลุ่มคนไข้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง รับประทานยากดภูมิ กำลังได้รับยาเคมีบำบัด มีเชื้อ HIV หญิงตั้งครรภ์ หญิงที่กำลังให้นมบุตร ไม่ควรรับวัคซีนตัวนี้
ข้อดีของการฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกมีอะไรบ้าง
- ลดอัตราการป่วย
- ลดความรุนแรงของโรค
- ประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษา
- ลดการนอนโรงพยาบาล
- ลดอัตราการเสียชีวิต
ผลข้างเคียงของวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก
จากการศึกษาเราพบว่าวัคซีนชนิดนี้มีผลข้างเคียงอยู่บ้างแต่ก็ไม่รุนแรงอะไรและเกิดได้น้อยมาก เมื่อได้รับวัคซีนไปแล้วบางคนอาจมีอาการปวดศีรษะและมีไข้ได้ กลุ่มนี้อาจพบได้ 1 ใน 10 บางคนอาจมีอาการมีเวียนหัว ไอ เจ็บคอ มีผื่นคัน กลุ่มนี้ก็พบได้น้อยลงไปอีก อยู่ที่ 1 ใน 100 ส่วนถ้ารุนแรงกว่านั้น คือ มีผลต่อระบบประสาทนี่เรียกว่าน้อยมาก ๆ มากกว่าอัตรา 1 ใน 10,000 แต่จากรายงานจนถึงปัจจุบันยังไม่มีพบภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงดังกล่าวเลย จากข้อมูลตรงนี้เราจึงสรุปได้ว่าวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกนี้ค่อนข้างที่จะปลอดภัย
ฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกได้ที่ไหน
โรงพยาบาลในเครือสมิติเวชมีแล้ว ส่วนโรงพยาบาลอื่นๆต้องสอบถามก่อน
วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ราคาเท่าไหร่
- ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2559 – 28 กุมภาพันธ์ 2560
- วัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก Dengvaxia 3 เข็ม (เฉพาะค่ายา) ราคา 9,600 บาท
- สำหรับผู้ที่มีอายุ 9-45 ปี เท่านั้น
- ราคาดังกล่าวเฉพาะค่ายา ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
- ราคาดังกล่าวสามารถใช้บริการได้ที่ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท และโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ เท่านั้น
แพ็คเก็จวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก
- พิเศษ !! สำหรับ Family Pack เมื่อซื้อวัคซีนสำหรับ 3 ท่านขึ้นไป
(ท่านละ 3 เข็ม, เฉพาะค่ายา) ต่อ 1 ใบเสร็จ - รับสิทธิผ่อนชำระ 0% นาน 4 เดือน เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิตกสิกร และ บัตรเครดิตกรุงศรี (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)
- สำหรับผู้ใช้บริการสมิติเวช ศรีนครินทร์
* รับส่วนลด 300 บาท สำหรับขูดหินปูน (จากราคา 1,500 บาท)
* ส่วนลด 500 บาท สำหรับ Treatment เพื่อผิวกระจ่างใส Vital Essence (จากราคา 1,000 บาท) - สำหรับผู้ใช้บริการสมิติเวช สุขุมวิท
* ส่วนลด 50% สำหรับ Facial Treatment (จากราคา 1,000 – 3,000 บาท) - สามารถรับ Gift Voucher ถึงวันที่ 31 มกราคม 2560 เท่านั้น
ขอบคุณข้อมูล : โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ศูนย์วัคซีน โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท และศรีนครินทร์ โทร.020-222-222