จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ คนร้ายอุ้มฆ่าน.ส.จรรจิรา เกิดแล้ว อายุ 50 ปี พยาบาลวิชาชีพรพ.แห่งหนึ่งของเชียงใหม่แล้วำศพไปเผาในสวนลำไย หมู่ 18 บ้านโทกเสือ ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ โดยนายธนพล ปารีเสน อายุ 43 ปี สามีของนางสาวจรรจิรา ได้แจ้งความไว้เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่าภรรยาหายออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. กระทั่งมีคนมาพบศพเมื่อค่ำวันที่ 12 ธ.ค. โดยเผานั่งยางเหลือแต่โครงกระดูก ต่อมาบ่ายวันที่ 13 ธ.ค. ตำรวจเชียงใหม่จับกุม นายนิรันดร แก้วเต๋จ๊ะ คนร้ายได้ สารภาพหักคอ อุ้มโยนลงกองไฟเผาทั้งเป็นเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ โดยนายนิรันดรเพิ่งพ้นโทษคดีฆ่าขืนใจสาวมาได้เพียง 2 เดือน แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะสงสัยว่าอาจมีคนร่วมสังหาร ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น (อ่านข่าว-จับคนร้ายฆ่าเผาพยาบาลสาว เพิ่งพ้นโทษคดีฆ่าข่มขืน สารภาพอุ้มร่างโยนเข้ากองไฟทั้งเป็น)

เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 13 ธ.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รรท.ผบช.ภาค 5 พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย รรท.ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ได้เดินทางมาสอบปากคำนายนิรันดร รวมทั้งตำรวจยังได้นำตัวนายธนพล ปารีเสน สามีของผู้ตายมาสอบปากคำเครียดด้วยอีกคน โดยตำรวจได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรันดรในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งศาลอนุมัติหมายจับแล้ว

นายนิรันดรให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายธนพลให้มาทำการลงมือสังหารผู้ตาย โดยจะให้ค่าจ้างในการสังหารผู้ตายในวงเงิน 1 แสนบาท เนื่องจากนายธนพลไม่พอใจที่ผู้ตายมาต่อว่าเรื่องที่นายธนพลเจ้าชู้และมีภรรยาน้อย โดยทั้งคู่เคยเลิกรากันไปแล้วถึง 2 ครั้งต่อมาครั้งสุดท้ายทั้งสองได้กลับมาคืนดีกัน และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 59 ทั้งคู่ได้มาจดทะเบียนกันอีกครั้ง

นายนิรันดรให้การอ้างว่า หลังมาอยู่กินกันอีกครั้ง ปรากฏว่านายธนพลกลับไปมีเมียน้อยอีก ทำให้ผู้ตายไม่พอใจและมาต่อว่าและด่าทอ จนนายธนพลได้มาว่าจ้างตนให้ลงมือสังหารผู้ตายดังกล่าว และวันเกิดเหตุ นายธนพลเป็นคนดึงผมของผู้ตายกระชากลงจนผู้ตายคอหักและหมดสติ และยังช่วยกันอุ้มผู้ตายใส่รถ และให้ตนนำมาเผาดังกล่าว โดยตนก็ได้เอาร่างของผู้ตายมาเผา โดยคิดว่าผู้ตายนั้นเสียชีวิตแล้ว แต่ปรากฏว่าเมื่อโยนผู้ตายลงกองไฟผู้ตายก็ดิ้นอยู่ ยังไม่ตายแต่สุดท้ายตนก็ดำเนินการจนเผาจนหมด

นายนิรันดรให้การว่า หลังสังหารเหยื่อแล้ว ตนได้ทวงค่าจ้างวาน 1 แสน แต่ปรากฏว่านายธนพลบอกว่าให้เอารถแจ๊ซของผู้ตายไปเป็นค่าจ้าง ตนก็ได้นำรถยนต์ของผู้ตายไปและทำการพ่นสีทับแบบลวกๆ ดังที่เห็นดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนนายธนพล สามีของผู้ตายนั้น ยังให้การว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงมือสังหารแต่อย่างใด

พล.ต.ต.พูลทรัพย์ กล่าวว่า ตอนนี้ผู้ต้องหา นายนิรันดร ได้รับสารภาพ และยังพาดพิงถึงบางบุคคล แต่ทางตำรวจยังไม่เชื่อผู้ต้องหา ขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มอีกนิดหนึ่ง ถ้าเป็นไปตามนั้นก็จะขออนุมัติหมายจับ การก่อเหตุครั้งนี้ผู้ต้องหาประสงค์ต่อทรัพย์ส่วนหนึ่ง และมีบางสิ่งบางอย่างที่ยังเคลือบแคลงอยู่ ส่วนคลิปเสียงหลักฐานที่เราได้มานั้นทางตำรวจกำลังตรวจสอบพิสูจน์อยู่

“ตอนนี้ผู้ต้องหาคือนายนิรันดรแน่นอน 1 คน ส่วนจะมีใครเพิ่มนั้นขอทำการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมอีกนิดหนึ่ง สำหรับที่ผู้ต้องหาซัดทอดให้การไปถึงสามีของผู้ตายนั้น ทางผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรเราก็รับฟังหมด แต่เราจะมาวิเคราะห์พร้อมกับหลักฐานอื่น ๆ ถึงแม้จะมีคลิปด้วย เราก็จะดูว่ามีพิรุธอะไรหรือเปล่า คนเราทำไมตอนแรกต้องมาอัดคลิป ทำไมไม่แจ้งให้ตำรวจมาดำเนินการเลย นายธนพลอัดคลิปเพื่ออะไร เราต้องทำการพิสูจน์ด้วย สำหรับนายนิรันดร นั้นเราได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นและซ่อนเร้นอำพรางศพ

พล.ต.ต.พูลทรัพย์ กล่าวว่า การลงมือสังหารเหยื่อนั้นก็ตามคำให้การ โดยตอนเผายังไม่ตาย ชีพจรยังเดินอยู่ โดยนายนิรันดรได้พาดพิงถึงผู้อื่นด้วย เราก็ต้องหาหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งคำให้การของผู้ต้องหานั้นจะให้การอย่างไรก็ได้ และการทำแผนของผู้ต้องหานั้นจะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุพรุ่งนี้ วันที่ 14 ธ.ค. ผู้ต้องหานายนิรันดรนั้นเคยก่อคดีฆ่าคนตายมาแล้ว และถูกติดคุกมา 14 ปี แล้วและเพิ่งพ้นโทษมา

ขอบคุณข่าว  : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_141148