คุณแม่ทุกคนย่อมทราบดีว่า อาหารและโภชนาการสำหรับลูกน้อยในแต่ละช่วงวัยนั้น เป็นสิ่งสำคัญสำหรับลูกน้อยมาก ๆ เพราะหากทานอาหารที่มีประโยชน์ สุขภาพร่างกายลูกน้อยย่อมสมบูรณ์แข็งแรง ซึ่งจะนำมาสู่การเลี้ยงดูที่ง่ายขึ้น รวมถึงพัฒนาการต่าง ๆ ก็จะเป็นไปอย่างสมวัยมากขึ้น โดยเฉพาะในเด็กวัย 1 ขวบปีขึ้นไป ที่กำลังมีพัฒนาการด้านความคิดของตัวเองมากขึ้น เริ่มเคลื่อนไหวได้เอง รู้สึกอิสระ สามารถหยิบอาหารเองได้ ดื่มนมจากถ้วยได้ การดูแลจึงต้องทั้งใส่ใจและเข้าใจเขาให้มากขึ้น
ในเรื่องของอาหาร สิ่งที่คุณแม่ควรสังเกตคือ ดูทักษะการเคี้ยวอาหารของลูกน้อยว่าเป็นอย่างไร เคี้ยวเก่งหรือไม่ หรือไม่ค่อยชอบเคี้ยวอาหาร หรือเคี้ยวอาหารแล้วบ้วนทิ้ง หรือเคี้ยวช้า หรือไม่ชอบเคี้ยวอาหารแต่ชอบอมอาหาร มากกว่า เป็นต้น เพราะเหล่านี้ล้วนจะนำไปสู่การฝึกฝน เพื่อให้เขาได้เรียนรู้ได้มากขึ้น
การจัดโภชนาการอย่างสมดุล นอกจากนมแม่แล้ว ควรเน้นอาหารจำพวกโปรตีน เพราะจะช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตสมวัย ใยอาหารนับเป็นสิ่งที่คุณแม่ควรเลือกสรร เหตุที่คุณแม่ควรคำนึงถึง “เส้นใยอาหาร” นั่นเพราะเด็กในวัย 6 เดือนถึง 4 ขวบ มักมีปัญหาเรื่องการขับถ่าย ถ่ายยาก ไม่สบายท้อง ท้องอืด ถึงเวลาถ่ายทีไรก็จะเกิดอาการร้องไห้งอแงทุกครั้ง การรับมือสำหรับเรื่องนี้ นอกจากอาหารครบ 5 หมู่แล้ว คุณแม่ควรฝึกให้ลูกน้อยทานอาหารที่มีเส้นใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ร่วมถึงการดื่มน้ำให้เพียงพอ ด้วยเหล่านี้หากทานอย่างไม่เหมาะสม รู้หรือไม่ว่าอาจส่งผลต่อปัญหาสุขภาพเรื้อรังในที่สุด
การทานอาหารที่มีใยอาหารในปริมาณที่เพียงพอ จะช่วยให้การทำงานของลำไส้ดีขึ้น ลดปัญหาอาการท้องผูก ให้ลูกน้อยได้ โดยปกติเด็กอายุ 1-8 ขวบ ควรได้รับใยอาหาร 14-18 กรัม ต่อหนึ่งวัน ซึ่งคุณแม่ทำได้ง่าย ๆ คือ การเตรียมอาหารจานผักในแต่ละมื้อของลูกน้อย รวมถึงการเตรียมของว่างเป็นอาหารจำพวกถั่วต่าง ๆ หรือ ผลไม้สด เช่น มะละกอสุก แอปเปิ้ล กล้วย ส้มเช้ง มะเขือพวง ถั่วลันเตา ถั่วแระ เป็นต้น เหล่านี้จะช่วยป้องกันอาการท้องผูก และช่วยให้ระบบย่อยอาหารของลูกน้อยทำงานได้ตามปกติ
ขณะเดียวกันคุณแม่บางคนอาจจะกำลังมีปัญหาเรื่องน้ำนมน้อย หรือต้องทานยาบางอย่างซึ่งผ่านทางน้ำนม หรือต้องกลับไปทำงาน “นมแพะ” ถือเป็นตัวช่วยที่ดีทางหนึ่ง เพราะนมแพะมีระบบให้น้ำนมแบบเดียวกับนมแม่ คืออะโพรไครน์ และยังมีพรีไบโอติก (prebiotic) ชนิด Oligosaccharide ใยอาหารที่ไม่ถูกย่อยในกระเพาะอาหาร เพราะทนต่อน้ำย่อย กรด ด่าง ในกระเพาะและลำไส้ และช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น แลคโตบาซิลัส และบิฟิโดแบคทีเรีย ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างเป็นปกติ ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย รวมทั้งช่วยปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหาร ช่วยลดการอักเสบบริเวณลำไส้ นอกจากนี้นมแพะยังอุดมไปด้วย CPP (Casein Phosphopeptides) ซึ่งเป็นโปรตีนที่นุ่ม ย่อยง่าย ร่างกายนำไปใช้ได้เต็มที่ และโปรตีน CPP ยังช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุต่าง ๆ ที่สำคัญต่อร่างกาย เช่น แคลเซียม เหล็ก สังกะสี แมกนีเซียม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ลูกรักมีพัฒนาการที่ดีสมวัย และเติบโตแข็งแรงอย่างเป็นธรรมชาติ
ทั้งนี้หากคุณแม่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ในด้านของโภชนาการหรือสารอาหารสำหรับลูกน้อย มีปัญหาเรื่องน้ำนม ไม่รู้จะเริ่มต้นเลือกอย่างไร สามารถปรึกษาได้ที่ ศูนย์โภชนาการนมแพะ 02-683-3394-6 หรือ 02-8812488 (วันและเวลาทำการ) 1800-29-3838 (ฟรีเฉพาะเบอร์บ้านและระบบทรู) ด้วยที่นี่จะมีคำแนะนำเกี่ยวกับสารอาหารธรรมชาติ ที่มีคุณประโยชน์มากมาย และข้อมูลเกี่ยวกับ Natural Genius สร้างพัฒนาการความฉลาดได้ด้วยธรรมชาติ เพื่อพัฒนาการที่ดีสมวัยของลูกน้อยนั่นเอง