เจาะน้ำคร่ำ
เจาะน้ำคร่ำ คืออะไร
เจาะน้ำคร่ำ คือ การเจาะดูดน้ำคร่ำปริมาณ 20 มิลลิลิตร ออกจากถุงน้ำคร่ำที่อยู่รอบ ๆ ตัวทารกในครรภ์ เพื่อการวินิจฉัยโรคหรือความผิดปกติต่าง ๆ ในประเทศไทย ยังนำมาคัดกรองหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นทุกรายที่มีอายุครรภ์ในช่วง 16- 19 สัปดาห์
เจาะน้ำคร่ำ มีข้อบ่งชี้อย่างไร
การเจาะน้ำคร่ำเป็นการตรวจคัดกรองที่จะทำเฉพาะในคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยง ต่อความผิดปกติของทารกในครรภ์ ดังต่อไปนี้
- คุณแม่ตั้งครรภ์ มีอายุครบ 35 ปี หรือมากกว่าที่วันครบกำหนดคลอด
- เคยคลอดบุตรที่มีโครโมโซมผิดปกติ
- มีประวัติการแท้งซ้ำซาก
- ตรวจพบสารชีวเคมีในเลือดผิดปกติ
- ตรวจพบความพิการของทารกในครรภ์
- ตรวจพบเป็นคู่สมรสที่เสี่ยงต่อการมีบุตรเป็นโรคเลือดจากธาลัสซีเมีย
สูติแพทย์ จะพิจารณา ตรวจเจาะน้ำคร่ำให้กับคุณแม่ตั้งครรภ์กลุ่มเสี่ยงเมื่ออายุครรภ์ 16 – 18 สัปดาห์
เจาะน้ำคร่ำ เพื่อหาความผิดปกติของดาวน์ซินโดรม
ปัจจุบันสถิติการคลอดลูกเป็นดาวน์ซินโดรมค่อนข้างสูงขึ้นเรื่อยๆอย่างน่าตกใจ เนื่องจากการ สมรสช้า ทำให้ตั้งครรภ์ตอนอายุมาก นอกจากนั้น ดาวน์ซินโดรมยังพบในคุณแม่ตั้งครรภ์กลุ่มวัยรุ่นด้วย แต่ยังน้อยกว่ากลุ่มคุณแม่ตั้งครรภ์ที่อายุมากในกลุ่มคุณแม่ที่อายุมากมีความเสี่ยงที่ลูกจะเป็นดาวน์ซินโดรมดังนี้
- คุณแม่ตั้งครรภ์ เมื่อ อายุ 33 ปี อัตราเสี่ยง 1:417
- คุณแม่ตั้งครรภ์ เมื่อ อายุ 34 ปี อัตราเสี่ยง 1:333
- คุณแม่ตั้งครรภ์ เมื่อ อายุ 35 ปี อัตราเสี่ยง 1:250
- คุณแม่ตั้งครรภ์ เมื่อ อายุ 36 ปี อัตราเสี่ยง 1:192
- คุณแม่ตั้งครรภ์ เมื่อ อายุ 37 ปี อัตราเสี่ยง 1:252
- คุณแม่ตั้งครรภ์ เมื่อ อายุ 40 ปี อัตราเสี่ยง 1:69
- คุณแม่ตั้งครรภ์ เมื่อ อายุ 45 ปี อัตราเสี่ยง 1:19
เจาะน้ำคร่ำ ในคุณแม่ตั้งครรภ์อายุ 35 ปีขึ้นไป
แม้ว่าการเจาะน้ำคร่ำจะมีข้อดีที่สามารถวินิจฉัยความผิดปกติได้ แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกันคือเสี่ยงต่อการแท้งบุตร โดยพบได้ประมาณร้อยละ 0.4 หรือแท้ง 1ครั้ง ต่อการตรวจเจาะน้ำคร่ำใรคุณแม่ตั้งครรภ์ 250 คน ซึ่งใกล้เคียงกับความเสี่ยงในการมีบุตรเป็นกลุ่มอาการดาวน์เมื่อคุณแม่อายุ 35 ปี ดังนั้นโดยทั่วไปจึงแนะนำการเจาะน้ำคร่ำแก่คุณแม่ที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 35 ปี สำหรับคุณแม่ที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี สามารถปรึกษาเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองกลุ่มอาการดาวน์ด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การตรวจคัดกรองจากการตรวจเลือด Tipple 3 test ได้จากสูติแพทย์ที่ฝากครรภ์
เจาะน้ำคร่ำ มีค่าใช้จ่ายอย่างไร
ค่าใช้จ่ายของการตรวจเจาะน้ำคร่ำ โดยประมาณ ( ราคาโรงพยาบาลรัฐบาล )
- ค่าตรวจอัลตราซาวด์ 400 บาท
- ค่าอุปกรณ์ 600 บท
- ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ 2,500 บาท รวมค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 3,500 บาท
เจาะน้ำคร่ำ ต้องเตรียมตัวอย่างไร
- ด้านจิตใจ สตรีตรั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะมีความกลัวเจ็บและกังวลถึงการแท้งที่อาจเกิดขึ้นได้ จากข้อมูลปัจจุบัน การเจาะน้ำคร่ำโดยใช้เครื่องอัลตราซาวด์ ชี้นำการเจาะ กำหนดตำแหน่งความลึกและติดตามปลายเข็มในบริเวณที่เจาะตลอดเวลา โอกาสทารกเกิดการบาดเจ็บและการแท้งพบได้ยาก และเข็มที่เจาะมีขนาดเล็กมาก จะมีความรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย ปกติแพทย์จะไม่แนะนำให้ฉีดยาชาเฉพาะที่ เนื่องจากเข็มที่ฉีดยาจะทำให้คุณแม่รู้สึกเจ็บหรือรู้สึกไม่สบายมากกว่าเข็มเจาะน้ำคร่ำเสียอีก
- ด้านร่างกาย คุณแม่ไม่ต้องงดน้ำหรืออาหารมาก่อนค่ะ สามารถสวมชุดที่หลวมและเปิดบริเวณท้องน้อยได้สะดวก คุณแม่ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและควรถ่ายปัสสาวะก่อนเข้าห้องตรวจ
เจาะน้ำคร่ำ มีวิธีการตรวจอย่างไร
เจ้าหน้าที่พยาบาลให้คำปรึกษาและแนะนำขั้นตอนการตรวจให้เข้าใจก่อนตรวจ
- นอนบนเตียงตามสบาย เปิดเสื้อผ้าบริเวณท้องน้อยออก ไม่เกร็ง
- ตรวจอัลตราซาวด์เพื่อกำหนดอายุครรภ์ จำนวนทารก ตำแหน่งรกและปริมาณน้ำคร่ำ
- ทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่เจาะด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
- ใช้เข็มขนาด 22 G แทงผ่านผิวหนังโดยการชี้นำของคลื่นเสียงความถี่สูง
- เจาะดูดน้ำคร่ำประมาณ 20 มิลลิลิตร
- นอนพักหลังตรวจประมาณ 20 นาที
เจาะน้ำคร่ำเสร็จต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
- งดทำงานหนัก เช่น ยกของ ออกกำลังกาย หรือเดินทางไกล อย่างน้อย 3 วัน
- งดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- กรณีที่มีอาการผิดปกติต้องรีบพบแพทย์ทันที
ผลการตรวจจะเสร็จสิ้นภายใน 4 สัปดาห์ สูติแพทย์ จะนัดทั้งคุณแม่ตั้งครรภ์และคู่สมรสมาร่วมรับฟังผลการตรวจน้ำคร่ำ หากพบว่าผลผิดปกติ คู่สมรสต้องตัดสินใจร่วมกันว่าจะยุติการตั้งครรภ์ครั้งนี้หรือไม่หรือต้องการตั้งครรภ์ต่อ โดยสูติแพทย์จะไม่ชี้นำให้เลือกอย่างหนึ่งอย่างใด ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของคู่สมรสเท่านั้น
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่
1. การตรวจครรภ์ตลอด 9 เดือน ที่แม่ต้องรู้
2. การตรวจความผิดปกติของหัวใจทารกในครรภ์
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editoriao Team