ถ่ายยาก
คุณแม่หลายคนย่อมทราบดีว่า เมื่อคลอดลูกน้อยออกมาลืมตาดูโลกนั้น เราต้องหมั่นสังเกตความปกติหรือความผิดปกติของลูกน้อยแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพร่างกาย สุขอนามัย รวมถึงอื่น ๆ และสิ่งหนึ่งที่ควรหมั่นสังเกตให้ดีนั่นคือ เรื่องของการขับถ่าย นั่นเพราะการขับถ่ายสามารถบ่งบอกได้ว่า ลูกน้อยของเรานั้นเขาอยู่ดีมีสุขหรือไม่!
โดยปกติแล้วในช่วง 2-3 อาทิตย์แรกหลังลืมตาออกมาดูโลก ลูกน้อยที่ดื่มนมแม่มักจะถ่ายวันละหลายรอบต่อวัน โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่วันละ 4 ครั้ง จากนั้นจะลดความถี่ลง จนเมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 6 เดือน ซึ่งถือเป็นช่วงวัยที่มีอาการท้องผูกมากที่สุดไปจนกระทั่งถึงอายุ 4 ขวบ คุณแม่อย่างเราควรหมั่นสังเกตให้ดี ด้วยลูกน้อยวัย 6 เดือน จะเริ่มมีการทานอาหารเสริม การถ่ายของลูกน้อยก็จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไป
อาการท้องผูกถ่ายยากในลูกน้อย
ลองสังเกตดูว่าการถ่ายอุจาระแต่ละครั้ง การเบ่งอุจจาระปกติหรือไม่ สีของอุจาระเป็นอย่างไร อุจจาระแข็งหรือไม่ ขับถ่ายคล่องหรือไม่ อุจาระเป็นเม็ดก้อนเล็กๆ หรือไม่ หรือมีอาการอื่น ๆ เช่น อึดอัด หงุดหงิด ร้องไห้งอแง หรือไม่ เป็นต้น เพราะหากมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย นั่นแสดงว่าอาการท้องผูกได้เกิดขึ้นแล้ว
อาการท้องผูกถ่ายยากในลูกน้อยมีผลมากจาก การที่อุจจาระไม่ถูกขับออกมาตามเวลาปกติ จึงทำให้เกิดการตกค้างอยู่ในลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ยิ่งหากไม่ถ่ายออกมา อุจาระก็จะยิ่งแห้งและแข็งนานมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหากับสุขภาพของลูกน้อยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเด็กบางคนเมื่อถ่ายยากอาจจะมีการร้องไห้เหมือนเจ็บก้นไม่สบายตัว หรือมีเลือดติดก้อนอุจจาระออกมา กระทั่งพบว่าลูกน้อยถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ทั้งนี้มีจุดให้คุณแม่สังเกตเพิ่มเติม คือ เด็กที่ดื่มนมแม่อุจจาระจะมีลักษณะนิ่มและมีสีเหลืองทอง ขณะที่เด็กดื่มนมผสม อุจจาระจะมีลักษณะเป็นสีเขียวเทาๆ และมีลุกษณะก้อนเป็นลํายาวนิ่ม
วิธีรับมืออาการท้องผูกถ่ายยากในลูกน้อย
วิธีรับมือกับเรื่องนี้ คุณแม่ที่นอกจากจะสังเกตอย่างใส่ใจแล้ว หากพบว่าลูกน้อยวัย 6 เดือนขึ้นไป มีอาการท้องผูก ลองเพิ่มเมนูเสริม เช่น ผัก น้ำผลไม้ เข้าไปด้วย การฝึกลูกน้อยให้ถ่ายเป็นเวลาก็สำคัญ การเตรียมความพร้อมทั้งกาย ใจของเขาให้พร้อมสำหรับการฝึกถ่าย รวมถึงการเตรียมกระโถนถ่ายที่เหมาะกับช่วงวัย ก็เป็นสิ่งสำคัญซึ่งคุณแม่ควรเรียนรู้
ทั้งนี้การให้นมแม่ตามปกติเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ อยู่แล้ว แต่อย่างไรหากคุณแม่คนไหนมีปัญหาเรื่องนม หรือกำลังมองหานมเสริม เพื่อช่วยในเรื่องของโภชนาการ รวมถึงเรื่องของการขับถ่ายของลูกน้อย “นมแพะ” ก็เป็นตัวเลือกที่ดีอีกหนึ่งทางเลือก นั่นเพราะนอกจากจะมีประโยชน์และสารอาหารใกล้เคียงนมแม่แล้ว ยังมีพรีไบโอติกส์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายของลูกน้อยแล้ว จะเป็นอาหารของจุลินทรีย์ชนิดดี จึงช่วยทำให้จุลินทรีย์ที่ดีเพิ่มจำนวนขึ้น ช่วยสร้างสมดุลในลำไส้ ทำให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้น ช่วยลดปัญหาท้องผูกของลูกน้อย นอกจากนี้ในนมแพะยังมีโปรตีนนุ่ม หรือ CPP (Casein Phosphopeptides) ที่ย่อยง่าย ร่างกายจึงนำไปใช้ได้อย่างเต็มที่ และโปรตีน CPP ยังช่วยในการดูดแร่ธาตุต่าง ๆ ที่สำคัญต่อร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น แคลเซียม เหล็ก สังกะสี แมกนีเซียม จึงทำให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่ดีและอิ่มสบายท้อง ผลที่ตามมาคือ ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดี อารมณ์ดี และเลี้ยงง่ายนั่นเอง
และหากคุณแม่ท่านใดมีข้อสงสัย หรือมีปัญหาในส่วนของโภชนาการหรือสารอาหารสำหรับลูกน้อย มีปัญหาเรื่องน้ำนม ไม่รู้จะเริ่มต้นเลือกอย่างไร สามารถปรึกษาได้ที่ ศูนย์โภชนาการนมแพะ 02-683-3394-6 หรือ 02-8812488 (วันและเวลาทำการ) 1800-29-3838 (ฟรีเฉพาะเบอร์บ้านและระบบทรู) ด้วยที่นี่จะมีคำแนะนำเกี่ยวกับสารอาหารธรรมชาติ ที่มีคุณประโยชน์มากมาย และข้อมูลเกี่ยวกับ Natural Genius สร้างพัฒนาการความฉลาดได้ด้วยธรรมชาติ เพื่อพัฒนาการที่ดีสมวัยของลูกน้อยนั่นเอง
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team