เนื่องจากพัฒนาการของลูกน้อยเกิดขึ้นในทุกๆวัน การได้พาลูกน้อยออกไปซึมซับบรรยากาศนอกบ้านนั้น ไม่ว่าจะออกไปในบริเวณใกล้หรือไกลก็สามารถเปิดโลกการเรียนรู้ใหม่ให้กับลูกน้อยได้ ซึ่งมีผลดีกับพัฒนาการทางด้านร่างกายและทางด้านอารมณ์ของลูกน้อยอีกด้วย
คุณพ่อคุณแม่บางคนเป็นกังวลเกินกว่าจะพาลูกออกจากบ้าน
เป็นเรื่องธรรมดาของพ่อแม่ที่จะทะนุถนอมลูกน้อย ไม่อยากพาออกไปไหนจนกว่าพ่อแม่คิดว่าจะโตและแข็งแรงพอ แต่สำหรับบางครอบครัวก็พาลูกไปไหนไปกันตั้งแต่ลูกยังเล็กๆ ซึ่งการพาเด็กแรกเกิดจนไปถึงช่วงระยะ 3 เดือนแรกนั้น ไม่ควรพาออกไปไหนถ้าไม่จำเป็นเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันและระบบต่างๆยังทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงต้องควรระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่หากลูก 4 เดือนขึ้นไปแล้ว ลูกน้อยเริ่มมีพัฒนาการทางด้านร่างกายที่มากขึ้น เหมาะสมกับการเรียนรู้เพิ่มเติมนอกบ้านเพื่อกระตุ้นพัฒนาการของลูก เพราะการมองเห็นของลูกน้อยสามารถมองเห็นออกไปในระยะไกลขึ้นได้อย่างชัดเจน ส่วนกล้ามเนื้อคอแข็งแรงขึ้นสามารถชันคอและหันซ้ายขวาได้ และเริ่มที่จะสนใจในสิ่งรอบข้างซึ่งมีความสัมพันกันในพัฒนาการ การพาลูกน้อยได้ไปสัมผัสกับบรรยากาศนอกบ้านจึงเหมือนเป็นการให้เค้าได้เรียนรู้สิ่งรอบตัวเพิ่มเติมจากในบ้าน เป็นการส่งเสริมให้ลูกน้อยมีพัฒนาการในการเรียนรู้ที่ดีขึ้น และเป็นการได้ใช้ช่วงเวลานั้นอยู่ร่วมกันระหว่างครอบครัว ทำให้ได้มีประสบการณ์ดีๆระหว่างคุณและลูกน้อย
เตรียมความพร้อมอย่างไรก่อนพาลูกออกจากบ้าน
ไม่ว่าจะพาลูกน้อยออกไปในระยะทางใกล้หรือไกล หรือหากต้องค้างคืน คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมตัวกันอย่างรอบคอบ เพราะถ้าหากขาดเหลืออะไรไปอาจส่งผลกระทบถึงสุขภาพของลูกได้ นอกจากการเตรียมตัวโดยทั่ว ๆ ไปแล้วยังต้องเน้นในเรื่องที่สำคัญ คือ 1. นมและอาหารของลูกถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าต้องดื่มนมแม่ก็ต้องเตรียมให้พร้อม อาจต้องติดที่ปั๊มนมไปด้วยถ้าต้องไปหลายวันเพื่อความสะดวกในการให้นมลูก หรือถ้าเด็กโตขึ้นมาพอที่จะทานอาหารเสริมหรือขนมได้ก็เอาไปด้วย จะช่วยให้เค้าไม่งอแงหงุดหงิดระหว่างอยู่นอกบ้าน 2. ยารักษาที่จำเป็นต้องติดกระเป๋าเอาไว้เลย เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้กับเด็กเล็ก 3. ถ้าไปค้างคืนต้องอย่าลืมเตรียมอุปกรณ์สำหรับล้างขวดนม ถ้าลูกยังเล็กก็อาจต้องเตรียมเครื่องนึ่งขวดนมติดไปด้วยหรือไม่ก็ใช้น้ำร้อนแทนในการทำความสะอาด และยังมีของอื่นๆอีกมากมายที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเอาไป ซึ่งในขณะเดียวกันก็ต้องดูแลลูกน้อยด้วย ทำเอาเหนื่อยกับการที่จะพาลูกออกไปไหน แต่สำหรับคนเป็นพ่อแม่แล้วก็อยากที่จะพาลูกไปด้วย เพราะเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีและความประทับใจกันระหว่างทั้งคุณและลูก นอกจากนี้ยังได้เห็นพัฒนาการของเค้าในทางที่ดีขึ้นอีกด้วย
เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะพาลูกน้อยออกไปสัมผัสกับโลกกว้างนอกบ้าน แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่ต้องมีข้าวของเครื่องใช้สำหรับลูกมากมาย ไหนจะต้องอุ้มลูกไหนจะของใช้สำหรับลูกที่คุณจะต้องถือ ยิ่งถ้าจำเป็นต้องออกไปกับลูก 2 คน คงจะไม่สะดวกเป็นแน่ การหาตัวช่วยเพื่อแบ่งเบาจึงเป็นทางเลือกที่ดี อย่างการหารถเข็นเด็กสักคัน ที่สามารถให้ลูกน้อยนั่งได้อย่างสบาย ปลอดภัย และที่สำคัญพกพาสะดวก ของใช้ต่างๆก็สามารถใส่ตะกร้าของรถเข็นเด็กได้ เป็นการแบ่งเบาได้เยอะจริงๆ แต่ก่อนจะตัดสินใจเลือกรถเข็นที่จะให้กับลูกน้อยของคุณก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและความคุ้มค่าประโยชน์ในการใช้งาน อย่างรถเข็นเด็ก GLOWY Puma Stroller ซึ่งเป็นรถเข็นที่รวมเอา “ ความสะดวก ” ของรถเข็นขนาดเล็กกับ “ความสบาย” ของรถเข็นขนาดใหญ่เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ด้วยดีไซน์ที่สวยและราคาที่คุ้มค่า
รถเข็น GLOWY รุ่น Puma ออกแบบมาให้เหมาะกับครอบครัวที่ชอบการเดินทางโดยเฉพาะ ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด - 3 ขวบ ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป EN-1888 นั่งสบายด้วยเบาะบุฟองน้ำนุ่ม ปรับระดับการเอนได้สูงสุด 170 องศา พร้อมหมอนรองศีรษะสำหรับเด็กแรกเกิด ปลอดภัยด้วยเข็มขัดนิรภัย 5 จุด ปรับได้ 3 ระดับ เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของลูกน้อย ก้านเข็นปรับสูงต่ำได้ 3 ระดับ สะดวกในการเข็น ล้อหน้าหมุนได้ 360 องศา ขนาดใหญ่พร้อมกันกระแทก ระบบเบรก 2 ล้อหลัง กดปุ่มเดียวล็อกพร้อมกันทั้ง 2 ล้อ ตะกร้าใส่ของขนาดใหญ่เพื่อเป็นตัวช่วยในการขนข้าวของเครื่องใช้ลูกน้อย พับเก็บง่ายด้วยมือเดียว และที่สำคัญคือพับแล้วมีขนาดเล็กพิเศษ พกพาได้แม้พื้นที่มีจำกัด ด้วยขนาดพับเก็บ 50 x 70 x 25 cm พับแล้วสามารถวางตั้งได้ ไม่ล้ม Glowy Puma Stroller จึงสามารถเป็นตัวช่วยสำหรับคุณพ่อคุณแม่ได้เป็นอย่างดี นอกจากจะมีคุณสมบัติที่เหมาะกับการพกพาไปเป็นตัวช่วยคุณพ่อคุณแม่แล้ว ในส่วนของการออกแบบก็สวยงามลงตัว มี 2 สี ให้เลือก Ocean , Brownie เมื่อมีตัวช่วยในการพาลูกน้อยออกไปเที่ยวนอกบ้านกันแล้ว คุณก็สามารถใช้เวลากับลูกน้อยของคุณไปกับการท่องเที่ยวอย่างเพลิดเพลิน ซึ่งยังเป็นการส่งเสริมพัฒนาการทางการเรียนรู้ให้กับลูกน้อยของคุณไปพร้อมๆกันอีกด้วย