วิธีลดถุงใต้ตา

.

.

ปัญหาถุงใต้ตาบวม หมองคล้ำ ไม่สวยสดใส เป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้หลายคนเกิดความไม่มั่นใจ เพราะทำให้สายตาเศร้าหมอง และใบหน้ายังดูไม่สดใสอีกด้วย วันนี้เราเลยมี 7 วิธี ลดถุงใต้ตา ทำง่ายได้ผลจริงไม่ต้องพึ่งมีดหมอมาฝาก ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าเป็นวิธีที่สาว ๆ ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเองได้เลย จะมีวิธีไหนบ้าง และการใช้วิธีแบบธรรมชาติดีอย่างไรก็ต้องมาดูกันเลย

7 วิธีลดถุงใต้ตา ด้วยวิธีธรรมชาติ

ถุงใต้ตาบวม ปัญหาที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตตุ ไม่ว่าจะเป็นนอนดึก การใช้สายตาทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน แต่ก็เป็นปัญหาที่สามารถรักษาได้กับ 7 วิธี ลดถุงใต้ตา ด้วยวิธีสุดง่ายที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้ผลจริงดังนี้ 

1.แตงกวา 

สำหรับแตงกวานั้นมีสรรพคุณช่วยแก้กระหาย ลดร้อนใน ช่วยให้สดชื่นและยังเพิ่มความชชุ่มชื่นให้กับผิวอีกด้วย วิธี ลดถุงใต้ตา ด้วยแตงกวาทำได้ง่ายมาก ๆ โดยการนำแตงกวาไปแช่เย็น จากนั้นก็นำมาหั่นเป็นแว่นบาง ๆ แล้วประคบที่ดวงตาสองข้าง แนะนำให้ทำก่อนเข้านอนประมาณ 30 นาที หรือหากใครไม่สะดวกทำก่อนเขข้านอนสามารถทำหลังตื่นนอนก็ได้ จะช่วยให้ผิวใต้ตาชุ่มชื้นมากขึ้น 

2.น้ำมันอัลมอนด์ 

ในน้ำมันอัลมอนด์นั้นจะอุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน A B1 B12 B6 และวิตามิน E ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูผิวแห้งกร้าน ช่วยให้ผิวกระชับและยังช่วยลดจจุดด่างดำต่าง ๆ อีกด้วย โดยการเข้านอนให้นำน้ำมันอัลมอนด์มาบำรุงผิวรอบดวงตาแล้วนวดเบา ๆ ปล่อยทิ้งไว้ทั้งคืน เช้ามาล้างให้สะอาดตามปกติ ถุงใต้ตาหมองคคล้ำไม่สดใสก็จะค่อย ๆ หายไป 

3.มะเขือเทศ 

มะเขือเทศเป็นผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารไลโคปีน ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ มีฤทธิ์ช่วยฆ่าเชื้อราและแบคทีเรีย ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยการนำมะเขือเทศมาหั่นเป็นแว่นบาง ๆ จากนั้นนำมาประคบที่เปลือกตาทั้งสองข้าง ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกจะช่วยให้ดวงตาสดใส ไม่หมองคล้ำ 

4.เกลือ 

เกลือก็สามารถช่วย ลดถุงใต้ตา ได้ด้วยเช่นกัน โดยการนำเกลือครึ่งช้อนโต๊ะมาละลายกับน้ำอุ่น จากนั้นใช้สำลีแผ่นกลมชุบมาแปะที่ใต้ตาทิ้งไว้อย่างน้อย 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น จะช่วยลดการบวมและการอักเสบได้ดี ทั้งยังช่วยฟื้นฟูระบบการไหลเวียนของเลือดฝอยรอบดวงตาได้ด้วย 

5.นมจืด 

สำหรับนมจืดนั้นนอกจากการดื่มจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก ๆ แล้วก็ยังสามารถนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการ ลดถุงใต้ตา ได้ด้วย โดยการนำนมจืดแช่เย็นชุบสำลีแล้วนำมาแปะที่ใต้ตาทิ้งไว้อย่างน้อย 20 นาที จะช่วยลดปัญหาคั่งน้ำบริเวณดวงตา ทำให้ถุงใต้ตายุบลงอย่างเห็นได้ชัด และยังช่วยให้ผิวบริเวณรอบดวงตานุ่มชุ่มชื่น กระชับอีกด้วย 

6.ไข่ขาว 

ไข่ขาวอุดมไปด้วยวิตามินหลากหลายชนิดซี่งมีความจำเป็นต่อผิวไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับการลดถุงใต้ตาบวมด้วยไข่ขาวสามารถทำได้ด้วยการนำไข่ขาวมาทาที่บริเวณใต้ตา จากนั้นทิ้งไว้อย่างน้อย 20 นาทีจนไข่ขาวแห้งตึงจะช่วยให้ผิวกระชับ ถุงใต้ตายุบลงอย่างรวดเร็ว

7.ว่านหางจระเข้ 

ว่านหางจระเข้เป็นพืชสมุนไพรที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ามีผลดีต่อผิว เนื่องจากอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและยังอุดมไปด้วยวิตามิน E ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดี แค่นำว่านหางจระเข้สดหรือจะเป็นเจลว่าหางจระเข้มาทาที่บริเวณใต้ตาก็จะช่วยลดปัญหาใต้ตาบวมได้แล้ว ทั้งยังทำให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งกร้านอีกด้วย 

ข้อดีของการใช้วิธีธรรมชาติ

ก็จะเห็นได้ว่าการ ลดถุงใต้ตา ด้วยวิธีธรรมชาตินั้นสามารถทำได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ส่วนประกอบ ขั้นตอนการทำ ซึ่งเห็นได้ถึงข้อดีที่หลากหลายด้วยกัน โดยข้อดีที่ได้จากการใช้วิธีธรรมชาติมีดังนี้ 

• ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ราคาแพง เนื่องจากส่วนผสมต่าง ๆ ที่นำมาใช้ ลดถุงใต้ตา นั้นสามารถหาซื้อได้ง่ายจากท้องตลาดโดยทั่วไป ทำให้ไม่ต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวราคาแพง และไม่ต้องทำการรักษาทางการแพทย์ให้ยุ่งยากอีกด้วย 
• การ ลดถุงใต้ตา ด้วยวิธีธรรมชาติถือเป็นวิธีที่ค่อนข้างมีความปลอดภัยสูงมาก ทำให้ไม่ต้องเสี่ยงเกิดอันตรายต่อผิวแพ้ง่าย และวิธีธรรมชาติเหล่านี้ก็เป็นวิธีที่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวอีกด้วย โดยเฉพาะสภาพผิวอ่อนโยนก็มั่นใจได้เลยว่าปลอดภัยแน่นอน 100% 

ดังนั้นหากสาว ๆ คนไหนที่กำลังมีปัญหาใต้ตาบวม หมองคล้ำมองดูไม่สดใส อยากให้ผิวใต้ดวงตากลับมากระชับ สดใสสามารถนำวิธีลดถุงใต้ตาที่เราแนะนำดังกล่าวไปใช้ได้เลย รับรองเลยว่าเห็นผลลัพธ์ที่ดีและไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตา และสุขภาพอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามเพื่อสุขภาพผิวใต้ดวงตาที่ดีควรหมั่นบำรุงผิวบ่อย ๆ และพักผ่อนให้เพียง เพียงแค่นี้คุณก็มีสุขภาพผิวใต้ตาที่ดีสดใสได้แล้ว 

บทความแนะนำเพิ่มเติม

1. 6 วิธีรักษาสิว กำจัดสิวอักเสบ ทำแล้วเห็นผลเร็วทันใจ

2. ผิวแห้งกร้าน ปล่อยไว้ไม่ดีแน่ มาดูสาเหตุและวิธีการดูแลรักษา

3. ปวดท้องหน่วง ๆ ก่อนเป็นประจําเดือน อันตรายไหม บรรเทาได้อย่างไร

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team