ประเภทของอัลตราซาวด์ตอนท้องและค่าใช้จ่ายในการทำอัลตราซาวด์แต่ละแบบ เช็คเลย

26 October 2017
177502 view

อัลตราซาวด์ตอนท้อง

ประเภทของ อัลตราซาวด์ตอนท้อง และค่าใช้จ่าย

เทคโนโลยีทางการแพทย์ได้ก้าวล้ำไปอย่างมาก ทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้เห็นหน้าลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในครรภ์กันเลยทีเดียวและการอัลตราซาวนด์นั้นมีมากมายหลายประเภทให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกตามความต้องการว่าอยากเห็นภาพทารกชัดแค่ไหนอยากเก็บภาพลูกแบบไหน ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ทุกวันนี้คุณหมอจัดให้ได้ทุกรูปแบบเลยค่ะ  ราคาของการความทันสมัยย่อมสูงไปตามๆกัน ดังนี้คะ

อัลตราซาวด์ตอนท้อง แบบ 2 มิติ

อัลตราซาวนด์ 2 มิติ คุณภาพของระบบทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้ภาพที่เห็น ความกว้างและความยาว เป็นภาพตัดขวางตามแนวคลื่นเสียงความถี่สูงที่ส่งออกไป ซึ่งจะสามารถมองเห็นได้ทีละระนาบในแต่ละครั้งสูติแพทย์จะเลือกทำอัลตราซาวด์2มิติเมื่อใต้องการวินิฉัยถึงความ ผิดปกติต่างๆได้ดี ซึ่งสูติแพทย์จะนิยมใช้ภาพ 2 มิตินี้ในการตรวจเป็นมาตรฐาน แต่ภาพที่เห็นลักษณะนี้จะดูและเข้าใจได้ยากมีเพียงผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่จะเเปลผลที่เห็นได้ คุณพ่อคุณแม่ก็มักดูไม่รู้ว่าหน้าตาลูกเป็นอย่างไร หรือดูไม่รู้ว่าตรงไหนคืออวัยวะอะไรบ้าง เห็นเป็นรูปร่างเงาๆเท่านั้น ภาพที่ได้เป็นขาวดำ ค่าใช้จ่ายถือว่าถูกสุดแล้วในการทำอัลตราซาวด์ ขึ้นอยู่กับว่าเลือกทำที่ไหน

  • โรงพยาบาลเอกชน 1500-2500บาท / ครั้ง
  • คลินิค 400 -1000 บาท/ ต่อครั้ง
  • โรงพยาบาลรัฐบาล 400 – 600 บาท / ต่อครั้ง

อัลตราซาวด์ตอนท้องแบบ3 มิติ

หลักการทำงานของเครื่องอัลตราซาวด์แบบ 3 มิติ จะมีการตรวจและอุปกรณ์ประมวลผลจะมีความซับซ้อนมากขึ้น เครื่องจะทำหน้าที่เก็บภาพ 2 มิติ คือ ความกว้างและความยาว แต่จากนั้นหัวตรวจจะถูกลากผ่านไปมาแล้วนำมาประกอบกันขึ้นสร้างเป็นภาพ 3 มิติ ส่วนการเก็บภาพมิติที่ 3 คือ ความลึกทำให้ภาพของทารกที่ปรากฏออกมาดูเหมือนจริงมากขึ้นคุณพ่อคุณแม่ดูง่ายและเข้าใจมากขึ้นส่วนค่าใช้จ่ายไม่แตกกต่างกันมาก เท่าๆกับ 2 มิติ 

  • โรงพยาบาลเอกชน 1500-2500บาท / ครั้ง
  • คลินิค 400 -1000 บาท/ ต่อครั้ง
  • โรงพยาบาลรัฐบาล 400 – 600 บาท / ต่อครั้ง

อัลตราซาวด์ตอนท้องแบบ 4 มิติ

การอัลตราซาวด์แบบ 4 มิติ เป็นการนำภาพ 3 มิติ มาเรียงกัน แสดงผลเป็นภาพเคลื่อนไหว ทำให้เห็นภาพของทารกในครรภ์ในอิริยาบถต่าง ๆ เช่น การหันหน้า ยกแขน ขยับตัว ดูดนิ้วได้ สามารถมองเห็นอวัยวะภายนอกของทารกในครรภ์ได้ชัดเจนกว่าการตรวจด้วยอัลตราซาวนด์ 2 มิติ เช่น ใบหน้า แขน ขา นิ้วมือ พ่อแม่จึงสามารถมองภาพได้เข้าใจมากขึ้น เห็นความผิดปกติของทารกภายนอกพื้นผิวได้ชัดเจนมากขึ้น แต่การใช้ภาพ 4 มิติจะไม่สามารถมองเห็นความผิดปกติภายในได้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการทำ อัลตราซาวด์ แบบอื่นๆ

  • โรงพยาบาลเอกชน 2500-4000บาท  / ครั้ง
  • คลินิค 2500-3000 บาท/ ต่อครั้ง
  • โรงพยาบาลรัฐบาล1000- 2000บาท / ต่อครั้ง ส่วนมากไม่มีแบบ4มิติ

คลิปตัวอย่างอัลตราซาวด์ตอนท้องชนิด 2 – 3 – 4 มิติ 

อัลตราซาวด์ตอนท้องเริ่มเมื่อไหร่

โดยปกติทางโรงพยาบาลจะกำหนดให้คุณแม่ที่มาฝากครรภ์ต้องได้รับตรวจอัลตราซาวนด์อย่างน้อย 1 ครั้ง ในช่วงอายุครรภ์ 4-5 เดือน เพื่อตรวจดูความผิดปกติของทารกในครรภ์ แต่ในบางแห่งก็จะตรวจตั้งแต่คุณแม่มาฝากครรภ์ครั้งแรกในช่วง 2-3 เดือน เพื่อการยืนยันอายุครรภ์ที่แน่นอน และตรวจหาความผิดปกติของการตั้งครรภ์ในระยะแรก เช่น การตั้งครรภ์นอกมดลูก สำหรับโรงพยาบาลของรัฐที่มีคุณแม่ไปใช้บริการกันมาก อาจจะตรวจอัลตราซาวนด์ให้เฉพาะในกรณีที่คุณแม่หรือทารกมีภาวะเสียงต่อการเกิดความผิดปกติต่างๆ ในขณะตั้งครรภ์

  • อายุครรภ์ประมาณ 16-20 สัปดาห์   สำหรับว่าที่คุณแม่ที่เป็นกลุ่มคนไข้พิเศษ เช่น ผู้ที่มีบุตรยากและตั้งครรภ์ด้วยการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ หรือเป็นกลุ่มที่เป็นครรภ์เสี่ยงสูง เช่น การตั้งครรภ์แฝด มีภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ตั้งแต่ไตรมาสแรกจนถึงไตรมาสที่สาม ควรจะได้รับการตรวจเพิ่มเติมตามอายุครรภ์ต่อไปนี้
  • อายุครรภ์ 7-9 สัปดาห์ การตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ทางช่องคลอดจะช่วยให้รู้ว่าการตั้งครรภ์อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่ มีตัวเด็กหรือไม่ เป็นการตั้งครรภ์เดี่ยวหรือแฝด มีเลือดออกอยู่ใต้รกหรือไม่ ไข่ตกจากรังไข่ข้างใด รังไข่มีซีสต์หรือไม่ ตัวมดลูกมีเนื้องอกร่วมกับการตั้งครรภ์หรือเปล่า  นอกจากนี้ยังสามารถคาดเดาอายุครรภ์ได้แม่นยำ โดยมีความผิดพลาดประมาณ 3 วันเท่านั้น ซึ่งการตรวจในช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ในอนาคต เพราะเป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับการตรวจในครั้งต่อๆ ไปอีกด้วย
  • อายุครรภ์ 11-13 สัปดาห์ การตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ทางช่องคลอดจะวัดขนาดความยาวของทารกที่เรียกว่า Crown Rump Length วัดความหนาของท้ายทอยทารก ตรวจหากระดูกจมูก ซึ่งช่วยในการทำนายโอกาสที่ทารกจะมีความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 21 ที่เรียกว่าดาวน์ซินโดรมได้กว่าร้อยละ 70 เมื่อรวมกับการตรวจวัดระดับฮอร์โมนของแม่แล้ว จะสามารถคำนวณออกมาเป็นโอกาสเสี่ยงที่ทารกจะเป็นดาวน์ซินโดรมได้แม่นยำมากขึ้นถึงประมาณร้อยละ 78  นอกจากนี้ยังสามารถบอกตำแหน่งที่รกเกาะได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะช่วยในการเฝ้าติดตามตำแหน่งของรกในอนาคตต่อไป
  • อายุครรภ์ 18-24 สัปดาห์ เป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่จะสามารถอัลตราซาวนด์ตรวจทารกในครรภ์ทั้งตัว ได้แก่ ส่วนศีรษะ แขน ขา ลำตัว และอวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ กระบังลม ปอด ตับ ไต กระเพาะปัสสาวะ กระเพาะอาหาร เป็นต้นในกรณีที่มีความผิดปกติของหัวใจแต่กำเนิด ซึ่งเป็นความผิดปกติที่พบได้บ่อย ก็สามารถที่จะปรึกษาสูติแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้การดูแลรักษาต่อไป และช่วงเวลานี้ยังเหมาะสำหรับการเจาะตรวจน้ำคร่ำ เพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์โครโมโซมของทารกในครรภ์ด้วย
  • อายุครรภ์ 32-34 สัปดาห์ เป็นช่วงเวลาที่จะทำการตรวจอัลตราซาวนด์ทารกในครรภ์ เพื่อที่จะบอกถึงความสมบูรณ์ของทารก ความสมบูรณ์ของใบหน้า อวัยวะต่างๆ และขนาด ซึ่งสามารถบอกได้ว่า ทารกในครรภ์มีการเจริญเติบโตตามเกณฑ์ โตเกินไป หรือเติบโตช้า เป็นต้น เพื่อทำนายน้ำหนักแรกคลอดนอกจากนั้น หลังจากช่วงเวลานี้ทารกในครรภ์มักจะไม่เปลี่ยนท่าอีกแล้ว เช่น หากอยู่เป็นท่าก้นหรือท่าศีรษะก็จะอยู่ในท่านั้น จนกระทั่งครบกำหนดคลอด คุณแม่ก็จะรู้ได้ว่าสามารถคลอดธรรมชาติได้หรือไม่ เพราะมีเพียงส่วนน้อยที่ทารกจะเปลี่ยนท่าไปจากเดิม

คงหายสงสัยแล้วแล้วนะคะ คุณแม่ที่อยากอัลตราซาวด์ดูเพศ หรือเก็บวีดีโอลูกในท้องเก็บไว้ดู เก็บไว้เป็นที่ระลึก แนะนำใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนจะสะดวกกว่า เพราะบางโรพยาบาลมีบริการไว้รองรับคุณพ่อคุณแม่อยู่แล้ว 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่

1. อัลตราซาวด์ไตรมาสแรกสำคัญอย่างไร ตรวจอะไรได้บ้าง

2. เทคนิคการเลือกสถานที่ฝากครรภ์ สำหรับคุณแม่

3. อัลตราซาวด์ 4 มิติ ตรวจอะไรได้บ้าง ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

เรียบเรียงโดย  :  Mamaexpert Editorial Team