ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินรับประทานอย่างไร มีผลข้างเคียงร้ายแรงหรือไม่?

05 December 2011
4588 view

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน 

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นยาคุมที่ใช้สำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจหรือไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใดมาก่อนเท่านั้น มีข้อจำกัดในการใช้ ไม่ควรนำมาใช้คุมกำเนิดแบบระยะยาวหรือนำมากินอย่างต่อเนื่องเด็ดขาด และอาจมีผลข้างเคียงของสุขภาพสูง เป็นเรื่องที่ผู้หญิงควรรู้และควรทำความเข้าใจ

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน คืออะไร

ยาคุมกําเนิดฉุกเฉิน หรือยาคุมฉุกเฉิน หรือยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Emergency contraception pill) คือ ยาฮอร์โมนเช่นเดียวกับยาคุมกำเนิดธรรมดา ที่ผลิตออกมาเพื่อใช้เฉพาะในเหตุการณ์จำเป็นฉุกเฉินเท่านั้น แต่ตัวยาจะมีขนาดฮอร์โมนสูงกว่า ใช้กินเพื่อลดโอกาสการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน โดยจะเกิดผลดีหากใช้อย่างถูกต้อง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้เต็ม 100% เพราะในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการคุมกำเนิดแบบใดที่ให้ผลเต็มร้อย ไม่ว่าจะเป็นการทำหมันหรือใส่ถุงยางอนามัยก็ตาม โดยตัวยาจะทำให้เยื่อบุมดลูกเปลี่ยนแปลงจนไม่เหมาะกับการฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน มีข้อบ่งใช้อย่างไรบ้าง

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีส่วนประกอบคล้ายกับยาคุมกำเนิดชนิดแผงธรรมดา แต่จะมีปริมาณสารเคมีที่มากกว่ายาคุมกำเนิดแบบธรรมดา ให้รับประทานก่อนหรือหลังมีการร่วมเพศไม่เกิน 12 ชั่วโมง จำนวน 2 ครั้งโดยและครั้งให้ห่างกัน 12 ชั่วโมง อาจจะช่วยให้ไม่ให้ตั้งครรภ์ได้ แต่ป้องกันไม่ได้ 100% และทำให้เลือดออกผิดปกติ เกิดความสับสนขึ้นได้ว่าเลือดที่ออกเป็นเลือดที่เกิดจากอะไร ควรรับประทานยาคุมกำเนิดแบบธรรมดามากกว่า

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน รับประทานอย่างไร

การใช้ยาคุมฉุกเฉินถึงแม้จะมีความปลอดภัยสูง แต่ถ้าใช้ผิดวิธีก็อาจส่งผลในระยะยาวได้ Mamaexpert มีคำแนะนำในการใช้ยาคุมฉุกเฉิน ดังนี้
  1. ควรขอคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนที่จะใช้ยาคุมฉุกเฉิน
  2. ประสิทธิภาพในการป้องกัน หากกินยาภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ ตัวยาก็จะออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 75 – 79% (จะต้องกินยาทั้งหมด 2 เม็ด) แต่ถ้าหากเป็น 12 – 24 ชั่วโมงหลังจากการมีเพศสัมพันธ์เกิดขึ้นก็จะช่วยป้องกันได้ถึง 85% แต่หากพ้นจาก 72 ชั่วโมงไปแล้ว หรือเลยเวลาไป 72 – 120 ชั่วโมงก็จะสามารถป้องกันได้แค่ 60% เท่านั้น
  3. การมีเพศสัมพันธ์ในขณะที่กินยาเม็ดแรกและเม็ดที่สอง ก็สามารถมีโอกาศตั้งครภ์ได้ โดยเฉพาะหากมีเพศสัมพันธ์หลังจากที่กินยาครบ 2 เม็ดไปแล้ว ยิ่งจะเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์ให้สูงมากขึ้น
  4. สูติแพทย์แนะนำ ห้ามรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเกิน 4 เม็ด ใน 1 เดือน เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมาได้
  5. ไม่ควรที่จะใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเพื่อคุมกำเนิดประจำหรือใช้กินเป็นยาคุมกำเนิดในระยะยาว เนื่องจากการใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินซ้ำกันหลายครั้ง อาจส่งผลให้เกิดอันตรายร้ายแรงตามมาได้
  6. หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น เช่น ประจำเดือนขาดหรือประจำเดือนไม่มา ให้ไปพบแพทย์โดยเร็ว

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน มีผลข้างเคียงอย่างไร

  1. ปวดท้องรุนแรง
  2. มีเลือดออกกะปริดกะปรอย
  3. มีประจำเดือนมาเร็วหรือช้ากว่าปกติ
  4. ความผิดปกติของรังไข่
  5. เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยี่ห้อไหนดี?

ในประเทศไทยมียาคุมฉุกเฉินวางจำหน่ายอยู่ 2 ยี่ห้อ คือ โพสตินอร์ กับ มาดอนน่า ซึ่งเป็นยาคุมฉุกเฉินที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทั้งสองยี่ห้อนี้ มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดที่คล้ายกัน เนื่องจาก เป็นยาชนิดเดียวกันและมีขนาดเท่ากัน อยู่ที่ความสะดวกในการเลือกซื้อ แต่ก่อนการรับประทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน ควรขอรับคำแนะนำจากเภสัชกรก่อนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยค่ะ
ยาคุมฉุกเฉิน เป็นยาที่ผลิตคิดค้นออกมาเพื่อใช้เฉพาะในเหตุการณ์ฉุกเฉินและจำเป็นเท่านั้น หากต้องการวางแผนครอบครัวโดยการคุมกำเนิดระยะยาว Mamaexpert ไม่แนะนำให้ใช้ ยาคุมฉุกเฉินนะคะ เพราะว่าจะทำให้มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณผู้หญิงค่ะ
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team