จากกรณีเหตุการณ์วิศวกรวัย 50 ยิงเด็กหนุ่ม ม.4 วัย 17 ปี ที่บริเวณอ่างศิลา หลังจากมีปัญหาเรื่องการจอดรถกีดขวางทางกัน และทั้งสองฝ่ายให้การไม่ตรงกัน จนมีการเปิดกล้องหน้ารถของวิศวกรในช่วงที่มีการยิงกันจนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันนั้น หลังจากนั้นยังมีการเรียกร้องให้เปิดคลิปตั้งแต่ต้นเรื่อง ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ โภชน์สมบูรณ์ อายุ 50 ปี อาชีพวิศวกร ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มวัยรุ่นจนทำให้กระสุนปืนไปถูกนายเอ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ว่า ที่เจ้าพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ทีเหตุอันสมควรนั้น ในขั้นตอนการสอบสวน หากยังรวบรวมพยานหลักฐานไม่เสร็จสิ้น สามารถเปลี่ยนข้อกล่าวหาได้ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งหาพยานหลักฐาน และสอบปากคำบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ให้ครบถ้วน จึงจะสามารถสรุปได้ว่าคดีจะเป็นไปในทิศทางใดและศาลจะเป็นผู้ตัดสิน

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มารดาและเพื่อนของผู้เสียชีวิต ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนและให้การกับตำรวจ ซึ่งกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมขณะนี้ หากพบว่าคำให้การขัดแย้งกับพยานหลักฐาน ทางตำรวจสามารถแจ้งข้อหาให้การเท็จกับมารดาและเพื่อนได้ ซึ่งส่วนตัวมองว่ากรณีนี้หลักฐานค่อนข้างชัดเจน สังคมจะเป็นผู้ตัดสินทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ขอสังคมอย่าเพิ่งวิพากษ์วิจารณ์และตัดสินฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปก่อน ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปข้อเท็จจริง และดูมูลเหตุข้อเท็จจริงด้วย ทั้งนี้ทาง ผบ.ตร. ได้กำชับให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมาและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ที่มา  : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_213086