จากกรณีนายรัติภูมิ พิมใจใส หรือเบิร์ด อายุ 34 ปี เซลส์ขายรถโตโยต้า ย่านเกษตร-นวมินทร์ หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.2559 โดยนายรัติภูมิโทร.หาผู้จัดการ ที่ทำงานเพื่อขอความช่วยเหลือพร้อมส่งโลเกชั่นที่บริเวณซอยบรมราชชนนี 78 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. ซึ่งเป็นซอยบ้านของสาวคนสนิท ก่อนจะขาดการติดต่อ จนมีการแจ้งความและออกค้นหาต่อมาพบศพอยู่ที่รพ.ศิริราช และจากการชันสูตรชี้ว่า มีภาวะตับและไตล้มเหลว อวัยวะภายในเสื่อมสลาย และจากการตรวจเลือด ชิ้นส่วน อวัยวะ พบมีสารเมทแอมเฟตามีน ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุทำให้อวัยวะภายในล้มเหลว
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่วัดช่องลม หมู่ 4 ต.ไผ่กองดิน อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี นายละเอียด พิมใจใส อายุ 65 ปีและนางสุนันทา พิมใจใส อายุ 63 ปีพ่อและแม่ของนายรัติภูมิ ได้นำศพลูกชายมาตั้งบำเพ็ญกุศลก่อนจัดพิธีรดน้ำศพในเวลา 17.30 น. โดยมีนางนันทิยา พิมใจใส อายุ 35 ปีภรรยา พร้อมด้วยญาติพี่น้องรวมทั้งกลุ่มเพื่อนๆ และเพื่อนบ้านมาร่วมรดน้ำศพกว่า 200 คน ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า
โดยเฉพาะคนในครอบครัวและญาติที่น้องที่ร่ำไห้เสียใจขณะรดน้ำศพ ขณะที่ชาวบ้านยังได้จับกลุ่มพูดคุยและวิพาษวิจารณ์ถึงสาเหตุการเสียชีวิตกันไปต่างๆนาๆ ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงคาใจไม่เชื่อสาเหตุของการตายตามที่เจ้าหน้าที่ระบุ เมื่อเสร็จพิธีรดน้ำศพทางครอบครัวได้ถ่ายภาพตามจุดต่างๆในร่างกายของนายรัติภูมิเก็บไว้ ก่อนนำศพใส่โลงเย็นด้วย
พ่อนายรัติภูมิ กล่าวว่า ยังคงรู้สึกใจหายเนื่องจากลูกชายเป็นเสาหลักของที่บ้าน เขาจะส่งเงิน 1-2 หมื่นบาทมาเลี้ยงดูพ่อแม่ทุกเดือน แต่เมื่อขาดเขาไปก็เหมือนขาดเสาหลักของบ้านไป ส่วนสาเหตุการตายตนและครอบครัวก็กังขาอยู่ในหลายๆเรื่อง ซึ่งดูจากสภาพศพแล้วทุกคนต่างเชื่อว่าลูกชายตนต้องถูกทำร้ายอย่างแน่นอน และเชื่อว่าสาเหตุการตายต้องมีเงื่อนงำอยู่อย่างแน่นอน แต่ตนเองและครอบครัวเป็นเพียงประชาชนธรรมดาไม่รู้จะเอาอะไรไปสู้รบตบมือใคร ตนจะตั้งศพลูกชาย 5 วันตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 12 ก.พ.หลังจากนั้นจะต้องปรึกษาคนในครอบครัวกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ที่มา : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_210953